การเตรียมเข้ามาฮุบกลุ่ม นิวค้างสเซิ่ล ของกรุ๊ปทุนซาอุสร้างความฮือฮาให้กับพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างยิ่ง สื่อหลายสำนักคาดเดากันว่าพวกเขาจะทุ่มเงินเพื่อยกฐานะกลุ่มขึ้นมาประมือกับบิ๊กซิกข์ซ์พรีเมียร์ลีก เพราะฉะนั้น "สาลิกาดง" จึงควรมีการเปลี่ยนกลุ่มขนานใหญ่ ซึ่งอย่างแรกที่พวกเขาคาดว่าจะทำเป็นตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอลโดยในขณะนี้ เมาริสิโอ โปเช็ตตำหนิโน่ กำลังเป็นเต็งหนึ่งแล้วก็มีข่าวสารว่าผู้ครอบครองกลุ่มพร้อมทุ่มเงินว่าจ้าง19 ล้านปอนด์ต่อปีอย่างยิ่งจริงๆ แม้กระนั้นตอนที่หลายๆคนกำลังทายใจกันนาๆประการว่าคนไหนกันจะเป็นนายใหญ่ “สาลิกาดง” คนถัดไป เหล่าเรารูนิดหน่อยกลับคิดว่าเพราะเหตุไรผู้ครอบครองคนใหม่ไม่เปิดโอกาส สตีฟ บรูซ ได้โชว์ความสามารถบ้าง
ในตอนที่ สตีฟ บรูซ​ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลนิวค้างสเซิ่ลแทนที่ของ ราฟาเอล เบนิเตซ​ ในก.ค.ปี 2019 มีความไม่ชอบใจเกิดขึ้นในกลุ่มแฟนบอลทูน อาร์มี่เพราะพวกเขาเห็นว่ากลุ่มขาดความทะยานอยากที่จะปรับปรุง เมื่อเทียบกับเรื่องที่ว่า บรูซ ชอบไม่ค่อยส่งผลงานที่ดีเยอะแค่ไหนเวลาคุมกลุ่มในระดับ พรีเมียร์ลีก

แล้วก็เมื่อเริ่มฤดู นิวค้างสเซิ่ล ก็ทำผลงานตกอับจมอยู่โซนด้านหลังตารางทำให้บ่อนรับพนันชูให้ สตีฟ บรูซ​ เป็นเต็งหนึ่งผู้จัดการทีมฟุตบอลคนถัดไปที่จะโดนให้ออกจากตำแหน่ง แต่ทว่าเกมที่คงจะจุดแปลงสำคัญน่าจะเป็นนัดหมายเชือดชนะ แมนฯยูไนเต็ด 1-0 ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาพวกเขาชนะมานัดเดียวจาก 7 นัดหมายก็ตาม

ภายหลังจากเกมตีผีแดงพวกเขาเริ่มทำผลงานดียิ่งขึ้นเรื่อยโดยแพ้เพียงแค่ 3 จาก 10 นัดหมายแปลงเป็นว่า บรูซ​ หลุดออกมาจากโผผู้จัดการทีมที่เสี่ยงโดนปลดแบบเกินจริง แม้ว่าจะส่งผลงานทรุดโทรมเป็นพักๆอยู่บ้างแม้กระนั้นระหว่างต้นเดือนม.ค.ถึงต้นเดือนเดือนกุมภาพันธ์ บรูซ ก็เคยพาทีมไม่มีพ่ายแพ้ 8 ครั้งติดต่อกันในทุกรายการมาแล้ว ในตอนที่มีนาคมก่อนหน้านี้ก่อนหยุดการประลอง พวกเขาก็ชนะ 2 ครั้งต่อๆกัน

ตอนนี้ นิวค้างสเซิ่ล อยู่ชั้นที่ 13 ของตารางมี 35 แต้มห่างจากโซนตกชั้นถึง 8 แต้ม ช่องทางที่จะอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกมีสูงมากขึ้นเรื่อยรวมทั้งด้วยผลงานนี้เองบรรดาฉันรูก็เลยมีความรู้สึกว่า สตีฟ บรูซ จำเป็นที่จะต้องได้ไปต่อกับกลุ่มถ้าหากผู้ครอบครองคนใหม่เทคโอเวอร์กลุ่มเสร็จ

“ที่ปรึกษาบิ๊กเนมไม่ได้การันแปลความหมายเสร็จ”

***รม ซูเนสส์ อดีตกาลผู้จัดการทีมฟุตบอลนิวติดอยู่สเซิ่ลก็ออกโรงมาเตือนสังกัดเดิมเก่าของเขาว่า ที่ปรึกษาบิ๊กเนมบางทีอาจจะไม่ได้การันตีความหมายเสร็จเสมอ

“หากการเทคโอเวอร์เกิดขึ้น ผมมีความรู้สึกว่าสตีฟ บรูซควรจะเป็นที่ปรึกษาถัดไป พวกเขาควรจะมอบโอกาส บรูซ ปฏิบัติหน้าที่นี้ให้ยอดเยี่ยมเพราะตอนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเขาทำผลงานได้อย่างดียิ่งด้วยทรัพยากรที่จำกัดแถมยังอยู่ภายใต้แรงกดดันตลอดระยะเวลา”

“ผมเคยเป็นผู้จัดการทีมมาก่อนและก็ผมทราบดีว่ามันยาก ผมมีความคิดว่าเขาทำผลงานเจริญแม้กระนั้นมันก็เป็นความจริงของบอลนั่นแหละ เมื่อคนกรุ๊ปใหม่เข้ามา พวกเขาก็อาจเลือกผู้ที่เขาปรารถนา”

“พวกเขาต้องการจะเปลี่ยน ผมมีความคิดว่าพวกเขาจะต้องใครซักคนที่โด่งดังมากยิ่งกว่านี้ ใครซักคนที่ทำเป็นมากยิ่งกว่านี้ แม้กระนั้นโน่นไม่ได้การันตีว่ามันจะบรรลุความสำเร็จเสมอ”

“ท้ายที่สุดมันก็จะกำเนิดปริศนาว่านักเตะผู้ใดที่พวกเขาจะดึงให้มาเล่นตรงนี้ถ้าหากมีเงินเสริมกองทัพก้อนโต ผมยังคงรู้สึกว่านิวค้างสเซิ่ลยังไม่อาจจะเย้ายวนใจนักฟุตบอลระดับท็อปได้นอกจากคุณจะยอมจ่ายค่าแรงงานพรั่งพร้อม”

“เขาทำผลงานได้ดิบได้ดีในเหตุการณ์ที่ทุกข์ยาก”

ระหว่างที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานลิเวอร์พูล ก็ออกโรงเกื้อหนุน บรูซ​ ให้เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลถัดไปเช่นเดียวกัน โดย คาร์ราเกอร์ ชูเหตุการณ์ของ แมนฯสิตี้ ยุคที่กรุ๊ปทุนอาบูดาบีเข้ามาเทคโอเวอร์สมาคมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในก.ย.ปี 2008 มาเป็นตัวอย่างเนื่องจากผู้ครอบครองกลุ่มคนใหม่อย่างท่าน ชีคห์ มานซูร์ ก็ยังจนกระทั่งจนกระทั่งที่จะใช้ มาร์ค ฮิวจ์ส ถัดไป

อดีตกาลแนวรับหงส์แดง บอกว่า “เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น ผมรู้สึกว่าทุกคนในแวดวงบอลมีความคิดว่าต้องการจะมอบโอกาส บรูซ ปฏิบัติภารกิจนี้ให้ยอดเยี่ยม เขาอยู่ภายใต้ข้อกำหนดทางด้านการเงินของ ไมค์ แอชลีย์ รวมทั้งผมเห็นด้วยกับ***รม ซูเนสส์ ผมรู้สึกว่าเขาทำผลงานเจริญในเหตุการณ์ที่ยากลำเค็ญ”

“ถ้าหากคุณย้อนกลับไปมองที่ แมนฯ ซิตี้ ผมมีความรู้สึกว่า ผู้ครอบครองสมาพันธ์ใหม่ใส่ใจดีถึงการพยายามไม่ปลดปล่อยให้กลยุทธ์ด้านในสมาคมหลุดออกมาหรือให้มีข่าวสารสลับตัวผู้จัดการทีมฟุตบอลอกตามสื่อ จะมองเห็นได้ว่า มาร์ค ฮิวจ์ส ยังคงปฏิบัติหน้าที่ของเขากับแมนฯสิตี้ถัดไปอีก 6 เดือน”

แต่ คาร์ราเกอร์ ยังคิดว่าเมื่อผู้ครอบครองกลุ่มคนใหม่เข้ามาเทคโอเวอร์พวกเขาอาจกระทำการแปลงกุนซือแน่ๆ

“เมื่อถึงจุดๆหนึ่งมันจำเป็นจะต้องมีการเปลี่ยน ผมไม่คิดว่าผมไม่แฟร์กับ สตีฟ บรูซ นะ ที่ผมกล่าวว่าจำเป็นจะต้องเปลี่ยน อาจจะเป็นผู้ที่มีโปรไฟล์ดีมากกว่า หรือไม่ก็เป็นผู้ที่เคยคว้าชัยชนะแชมเปี้ยนส์ ลีกมาแล้ว หากโน่นเป็นสิ่งที่ผู้ครอบครองคนใหม่คิดเอาไว้นะ ท้ายที่สุดมันก็จำต้องแปลงที่ปรึกษาอยู่ดี”

“ถ้าหากคุณเป็นเจ้าของกลุ่มคนใหม่ คุณก็อาจจะจำเป็นต้องคิดมากแล้วว่าคุณจะมอบเงินเสริมกองทัพ 200-300 ล้านปอนด์กับที่ปรึกษาที่มิได้เป็นหวานใจของแฟนบอลดีไหม ยิ่งคุณมิได้ขมักเขม้นอย่างเต็มเปี่ยมกับผู้จัดการทีมฟุตบอลคนนั้นในอนาคตด้วย คุณอาจไม่อยากเปลี่ยนแปลงผู้เล่น 7-8 คนภายในแต่ละฤดูหรอก”

“ใช่ คุณอาจจะไม่ต้องการมองเห็นการเปลี่ยนผู้จัดการทีมฟุตบอล แต่ว่าหากในฐานะแฟนบอล พวกท่านก็จะต้องเห็นด้วยว่าผู้ครอบครองกลุ่มก็อาจจะเอาผู้ที่เขาปรารถนา ถ้าหากคุณมีความคิดว่าคนั้นเป็นผู้ที่ใช่ก็ช่วยเหลือเขา แต่ว่าหากไม่ใช่ก็จำเป็นต้องแปลง”

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ แทงบอลออนไลน์