เมื่อคุณพูดถึงปี 1999 ในฐานะแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขารู้ได้ทันทีว่านั่นคือปีที่สุดแสนยิ่งใหญ่เมื่อทัพ "ปีศาจแดง" สร้างประวัติศาสตร์คว้าทริปเบิ้ลแชมป์ได้แก่ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครอบครอง
ทัพ "ผีแดง" ภายใต้การบัญชาการรบของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (ยังไม่ได้ติดยศอัศวิน) ทำผลงานได้อย่างยิ่งใหญ่ และความสำเร็จในครั้งนั้นยังไม่มีทีมจากอังกฤษทำได้อีกเลย นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ความทรงจำแสนหอมหวานในครั้งนั้น ยังคงติดตาตรึงใจสาวก "เร้ด อาร์มี่" จนถึงปัจจุบันนี้

อย่างไรก็ตามขุนพล "ผีแดง" ในชุดคว่ำ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ที่สนามคัมป์ นู ในนครบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ได้สร้างความทรงจำอีกเรื่องที่แสนจะแสบสันต์จนยากที่จะลืมเลือนได้

ย้อนไปเมื่อซัมเมอร์ปี 1999 เหล่านักเตะ "ปีศาจแดง" และทีมสตาฟฟ์ ได้ยกพลขึ้นเครื่องบินออกเดินทางไปทัวร์ปรีซีซั่น แต่ขาด เดวิด เบ็คแฮม ซึ่งเพิ่งจะแต่งงานกับ วิคตอเรีย และ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เพิ่งได้รับการประดับยศอัศวินสดๆ ร้อนๆ

การที่ไม่มี "คุณป๋า" เดินทางไปด้วย งานนี้ สตีฟ แม็คคลาเรน จึงต้องทำหน้าคุมทัพ แถมยังมีนักเตะใหม่อย่าง มาร์ค บอสนิช ที่จะเป็นไกด์นำเที่ยว งานนี้ทำเอา ดไวท์ ยอร์ค ถึงกับเรียกการเดินทางในครั้งนั้นว่า "ทริปที่ลืมไม่ลง"

"ผมรู้ว่า บอซซ่า (บอสนิช) เป็นคนใจถึงซึ่งชอบความท้าทาย และมันเยี่ยมมากๆ ที่เพื่อนเก่าของผมตอนเล่นกับ (แอสตัน) วิลล่า ย้ายมาอยู่ด้วยกัน" ยอร์ค เปิดใจกับ โฟร์โฟร์ทู นิตยสารฟุตบอลระดับโลก เกี่ยวกับการเดินทางในครั้งนั้น

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมของทั้งสองคน เมื่อพวกเขาฝ่าฝืนกฎเคอร์ซิวของสโมสรตอนที่อยู่ในซิดนี่ย์ แถมยังทำตัวลับๆ ล่อๆ ตอนที่กลับเข้ามาที่โรงแรมในเวลา 05.00 น. แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น

จากการที่ตะเวณย่ำราตรีกันจนเกือบสว่างคาตาทำให้ ยอร์ค กับ บอสนิช มีพฤติกรรมที่เพื่อนร่วมทีมยังต้องอึ้ง โดย นิกกี้ บัตต์ เล่าความหลังให้ฟังว่า "เรากำลังยืดกล้ามเนื้อในสนาม จากนั้นผมก็ได้ยินใครบางคนกรน พอหันไปเห็นก็ถึงรู้ว่าเป็น ยอร์คกี้ เขาหลับเฉยเลย"

          "เราทุกคนหัวเราะกันยกใหญ่ แต่ไม่มีใครปลุกเขานะ เขาหลับเร็วมากๆ แต่เขาก็ยังนั่งได้ทั้งๆ ที่หลับ หลังจากนั้นซักประมาณสี่หรือห้านาทีของการยืดกล้ามเนื้อ เราก็ต้องออกไปวิ่งจ็อกกิ้งเบาๆ ซึ่งเราปล่อยให้ ยอร์คกี้ หลับอยู่กลางสนาม"

          "ยอร์คกี้ หลับอยู่กลางสนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม ซึ่งในเป็นเรื่องที่ตลกที่สุดที่ผมเคยเห็นในวงการฟุตบอล" บัตต์ ระบุ

          ด้วยความที่มีผู้คนมากมายคอยจับจ้องการออกทัวร์ปรีซีซั่นในปัจจุบัน มันจึงเป็นเรื่องยากที่ ยูไนเต็ด จะทำเรื่องแบบเดิมๆ ในปี 2020 

          อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปในปี 1999 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่โซเชียลมีเดียจะเปิดทางให้คนท้องถิ่นโพสต์รูปหรือคลิปวิดีโอลงโลกออนไลน์ได้ตั้งแต่ก่อนหน้าที่คุณจะกลับไปถึงโรงแรมนั้น มีเรื่องให้พูดถึงเยอะมาก

หลังผ่านไปสองทศวรรษจากการออกทัวร์ในครั้งนั้น ยอร์ค ไม่รู้สึกหวั่นไหวที่จะแบ่งปันความทรงจำที่สุดแสนประหลาดตอนที่ยังเป็นนักเตะซึ่งอาจจะนำไปสู่ปัญหามากมายสำหรับนักฟุตบอลในยุคปัจจุบัน

"ไม่มีที่ไหนในโลกนี้ที่มีผู้หญิงสวยๆ เหมือนที่ออสเตรเลีย" อดีตหัวหอกทีมชาติตรินิแดด แอนด์โตเบโก กล่าว

          "เราอยู่ภายใต้กฎคุมเข้มในการเก็บตัวที่เมลเบิร์น โดยไม่อนุญาตให้ใครก็ตามเข้ามาเยี่ยม และยังมีป้อมรปภ. อยู่ตรงหน้าลิฟท์ ผมพยายามที่จะหลบเลี่ยงรปภ.ด้วยการใช้มุกเก่าๆ นั่นก็คือการติดสินบน เพื่อจะได้แอบพาสาวเข้าไปในห้องของผม"

          เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายหลักของ ยอร์ค ตลอดทัวร์ครั้งนี้ซึ่งเป็นการเดินทางไปยัง เมลเบิร์น, ซิดนี่ย์, เซียงไฮ้ และฮ่องกง คือการได้ร่วมสังวาสกับสาวๆ โดย อดีตดาวยิงหน้าเปื้อนยิ้ม ย้อนความหลังตอนที่ได้พบกับ แก็บบี้ ริเชนส์ นางแบบสาวสุดเซ็กซี่ ที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในสาวที่ฮอตที่สุดในดินแดนออสซี่

เรื่องของเรื่องก็คือตอนนั้น ยอร์ค ได้ทราบว่าเธอจะอยู่ในซิดนี่ย์ หลังจบแมตช์ที่ "ผีแดง" พบกับทีมรวมดาราออสเตรเลีย ในสนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม โดยเกมนั้น ยอร์คกี้ ยิงประตูได้ด้วย

          "เธอยังเป็นที่รู้จักในฐานะ "เครื่องจักรจอมบำเรอความสุข" ด้วย มันเป็นฉายาที่เธอได้มาจากตอนร่วมแสดงโฆษณาสายการบินแห่งหนึ่งที่เธอทำให้คนฮือฮาด้วยการเต้นระบำเปลื้องผ้า ตอนที่ผมได้เจอเธอ ผมตะลึงงันไปเลย ผมไม่ยอมเสียโอกาสที่จะเข้าไปตีสนิทกับเธอ" 

          หลังจากคั่ว ริเชนส์ ได้สำเร็จ สิ่งที่ ยอร์ค ต้องทำก็คือการติดสินบนรปภ. ซึ่งเขาใช้เงินแค่ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3,300 บาท) ก็เพียงพอที่จะทำให้รปภ. ที่ถูกนำมาเพื่อป้องกันไม่ให้ใครก็ตามเข้าไปในห้องของนักเตะ ยอมเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ "ผมยอมควักเงินโบนัสที่ได้มาทั้งปีหากจำเป็นต้องทำ" อดีตกองหน้าจอมลีลา ซึ่งได้พบกับค่ำคืนที่สุดแสนวิเศษกับ ริเชนส์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผลการแข่งขันในช่วงปรีซีซั่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้แย่เพราะพฤติกรรมนอกสนามของนักเตะ พวกเขาชนะทั้ง 4 แมตช์ในการออกทัวร์ครั้งนั้น โดย บอสนิช และ ไรมอนด์ ฟาน เดอร์ ฮาว ไม่เสียประตูในทุกเกมที่พวกเขาได้ลงเฝ้าเสา

          แม้ว่าการออกทัวร์ปรีซีซั่นอาจจะไม่ได้อยู่ในความทรงจำมากนักสำหรับทุกๆ คน แต่คงต้องยกเว้น ยอร์ค

          เพราะเบื้องลึกตอนที่เขาโบกมือลาเกมลูกหนังในอังกฤษ เพื่อไปเล่นให้ ซิดนี่ย์ เอฟซี ในปี 2005 มาจากความทรงจำช่วงซัมเมอร์ปี 1999 ที่มีอิทธิพลในการตัดสินใจของเขาด้วย

เพิ่มเติม : lazyobsession.com