อัซซูรี่ในมือสปัลเล็ตติ คนที่ไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิด
อิตาลี ทีมแชมป์เก่าจากยูโร 2020 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของยูโร 2024 ด้วยน้ำมือของสวิตเซอร์แลนด์ ที่เล่นได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าแชมป์เก่าจะตกรอบ แต่น้อยคนจะมองว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ เพราะอัซซูรี่ไม่ได้ถูกยกเป็นทีมเต็งแชมป์ในครั้งนี้แต่อย่างใด หรือกูรูบางคนยกให้พวกเขาเป็นทีมม้ามืดด้วยซ้ำ
ลูเชียโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือที่พาอิตาลีมาลุยป้องกันแชมป์ด้วยความคลางแคลงใจจากคนทั่วไปว่าทีมที่เขาเลือกมาแปลกตาเกินไป ใช้นักเตะเกรดบีเต็มทีม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือคนก่อนเคยพาทีมบินสูง ด้วยการไม่แพ้ใครถึง 38 เกม แต่การไม่สามารถพาทีมไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเป็นการไม่มีบทในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2 ครั้งติดต่อกัน ทำให้ทีมต้องการการเปลี่ยนแปลง และเป็นสปัลเล็ตติที่เข้ามากอบกู้สถานการณ์ จากผลงานที่พานาโปลีคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรียอา หนแรกในรอบ 33 ปี
สิ่งที่ถูกคาดการณ์ไว้ว่าอิตาลีจะเป็นทีมไม่น่าตื่นตาตื่นใจอะไร ก็เป็นไปอย่างที่คิด ทีมอัซซูรี่เป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งทั้ง 4 เกม แม้แต่แอลเบเนีย กว่าที่พวกเขาจะแซงชนะ 2-1 ได้ก็ต้องลุ้นกันเหนื่อย และอีก 3 แมตช์ แพ้สเปน 0-1 เสมอโครเอเชีย 1-1 แพ้สวิตเซอร์แลนด์ 0-2 ก็ไม่ได้มีเกมไหนที่น่าประทับใจเลย
อิตาลียิงได้เพียง 3 ประตู จาก 4 เกม ต่างจากในยูโร 2020 ที่แค่รอบแบ่งกลุ่ม 3 เกม ก็ยิงไป 7 ประตูแล้ว การเจอกับสวิตเซอร์แลนด์เมื่อ 3 ปีก่อน ในรอบแรก อิตาลีก็ถล่มไป 3-0 ชัดเจนว่าเกมรุกของทัพอัซซูรี่ถอยหลังลงคลองอย่างชัดเจน
จานลูก้า สคามัคคา, มาเตโอ เรเตกี, ยาโคโม่ ราสปาโดรี่ ยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียวใน 4 เกม กองหน้าคนเดียวที่ยิงประตูได้ในยูโร 2024 คือ มัทเตีย ซัคคานยี่ ในเกมกับโครเอเชีย เรื่องนี้ก็ชัดเจนอีกว่าการเลือกแนวรุกของสปัลเล็ตติก็ไม่ได้เวิร์กอย่างที่คิดไว้
การเลือกนักเตะชุดนี้ สปัลเล็ตติใช้แข้งจากอินเตอร์ มิลาน มาเป็นแกนหลัก เพราะมองจากผลงานของทีมงูใหญ่ที่ได้แชมป์เซเรียอา ก่อนจบฤดูกาลถึง 5 นัด อเลสซานโดร บาสโตนี่, มัตเตโอ ดาร์เมียน, เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้, นิโคโล่ บาเรลล่า, ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ ติดทีมมาพร้อมหน้าพร้อมตา
สปัลเล็ตติบอกว่า ได้มีการติดต่อกับ ซิโมเน่ อินซากี้ กุนซืออินเตอร์ มิลาน อย่างใกล้ชิดมาตลอดในหลายเดือนหลัง ว่าพวกเขาซ้อมอย่างไรที่ทำให้ผลงานของทีมดีจนได้แชมป์ลีกเร็วขนาดนั้น
แต่อินเตอร์ มิลาน ไม่ใช่ทีมชาติอิตาลี เมื่อนักเตะจากทีมงูใหญ่ต้องมาร่วมเล่นกับแข้งทีมอื่นๆ ก็ต้องการการปรับตัวเช่นกัน และดูเหมือนว่าการเชื่อมนักเตะอิตาลีทั้งทีมเข้าด้วยกันของกุนซือวัย 65 ปี ไม่ได้อย่างที่คาดหวังไว้
การเล่นด้วยกันของ 11 ตัวจริงในแต่ละนัด ดูเหมือนกับว่าพวกเขาไม่เคยเล่นด้วยกันเลย ไม่มีรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน ถ้าจะบอกว่านักเตะที่ถูกส่งลงสนามเคมีไม่ตรงกัน ก็คงไม่ผิดนัก จังหวะที่ขาดๆ เกินๆ ในเกมแพ้สวิตเซอร์แลนด์ ถึงแม้จะวิ่งกันลืมตาย พยายามพาบอลบุกหวังทวงประตูคืน แต่เมื่อรุก เกมรับก็เปิดช่องว่าง ก็โดนลงโทษด้วยความเฉียบขาดของสวิตเซอร์แลนด์
นักเตะคนเดียวของอิตาลีที่ได้รับคำชมในยูโรหนนี้ คงมีเพียง จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายทวารของทีม ที่เซฟอุตลุดให้ทีมไม่แพ้หรือแพ้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น
ดอนนารุมม่าในฐานะกัปตันทีมที่มองเห็นรูปแบบการเล่นของเพื่อนจากการยืนอยู่ในเขตโทษออกมาบ่นว่า อิตาลีไม่ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นใคร และไม่ควรเล่นได้แค่นี้ แต่ก็ยังมองในแง่ดีว่ายังมีนักเตะดาวรุ่งอีกหลายคนที่มาเก็บเลเวลเพื่ออนาคต ซึ่งเมื่อรู้จุดอ่อนที่ทำให้ทีมไปได้ไม่ไกลในยูโรครั้งนี้แล้ว ก็ต้องเอาไปปรับแก้ เพื่อกลับมาประสบความสำเร็จในอนาคต
ทีมอัซซูรี่มีเพชรที่สปัลเล็ตติเจียระไนยังไม่เสร็จอยู่จำนวนหนึ่ง หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่ากระบวนการพัฒนานักเตะอายุน้อยอนาคตไกลเหล่านั้นจะอยู่ในมือของใคร และทำกันในรูปแบบไหน เพื่อไม่ให้แฟนบอลอิตาลีเจ็บปวดจากการไม่ได้ไปลุยฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 3 สมัยติดต่อกัน และไม่จอดป้ายเร็วเกินไป แบบที่เกิดขึ้นในยูโรเวอร์ชั่นเยอรมนีอย่างที่เห็นกัน
แต่ชัดเจนว่า คนที่จะมากู้ชื่อของทีมอัซซูรี่หลังจากนี้ คงไม่ใช่สปัลเล็ตติอีกแล้ว
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa
|