"ลิซานโดร มาร์ว่ากล่าวเนซ เป็นหนึ่งใน 5 กองหลังตัวกลาง ที่เก่งที่สุดของโลกในช่วงเวลานี้ เขาสร้างไม่เหมือนกันได้เป็นอย่างมากในนัดหมายนี้จากการที่เขาผ่านบอลทะลุแนวรับของพวกเราได้ดิบได้ดี" โน่นเป็นสิ่งที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้สัมภาษณ์ข้างหลังจบเกม เอฟเอ คัพ นัดหมายชิงแชมป์ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของเขาแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันเสาร์ที่ 25 เดือนพฤษภาคม ก่อนหน้านี้
นี่ไม่ใช่คราวแรกที่ กวาร์ดิโอล่า กล่าวสรรเสริญ มาร์ติเตียนเนซ ด้วยเหตุว่าย้อนกลับไปเมื่อตอนปี 2022 ซึ่งเป็นตอนที่ มาร์ตำหนิเนซ โดนเปิดประเด็นว่าเตี้ยเกินกว่าที่จะเล่นใน พรีเมียร์ลีก ได้นั้น กวาร์ดิโอล่า ก็เคยบอกก่อนเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ นัดหมายหนึ่งว่า "แน่ๆว่า เอ้อร์ลิง (ฮาลันด์) ตัวสูงขึ้นมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นผมชื่นชอบอย่างยิ่งในตอนที่คนไม่ใช่น้อยประมาทนักฟุตบอลผู้ใดผู้หนึ่งเพียงแต่ด้วยเหตุว่าเรื่องความสูง เขาสามารถตอบโต้คนอื่นได้ว่าตนเองเป็นนักฟุตบอลที่ดี ผมบอกเลยว่าเขาเป็นนักฟุตบอลที่เก่ง, มีความดุเดือด และก็ขึ้นเกมก้าวหน้า นี่ไม่ใช่คราวแรกที่เขาจำเป็นจะต้องพบกับแผงหน้าที่ตัวสูงขึ้นมากยิ่งกว่า เขาเคยจัดการกับเหตุการณ์แบบงั้นได้แล้ว สิ่งที่จำเป็นเป็นการเล่นด้วยความฉลาดและก็กล้าเล่น"
แท้จริงก่อนถึงเกม เอฟเอ คัพ นัดหมายชิงดำนั้น หลายท่านก็ดูกันอยู่แล้วว่าหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ แมนยู ส่งผลงานโดยรวมน่าผิดหวังในช่วงฤดูกาล 2023-24 เป็นการหายไปของ มาร์ว่ากล่าวเนซ ด้วยเหตุว่าเขาได้ลงเล่นให้กลุ่มไปเพียงแค่ 14 นัดหมายในทุกรายการ ข้างหลังโดนการบาดเจ็บตามโจมตีอย่างมากไม่ว่าจะเป็นตรงฝ่าตีน, เข่า ไปจนกระทั่งน่อง
ในปริมาณ 14 เกมที่ มาร์ติเตียนเนซ ลงเล่นให้กลุ่มได้นั้น มีอยู่ 4 เกมที่ลงเอยด้วยความปราชัยของ แมนยู โน่นเป็นเกมลีกที่แพ้ สเปอร์ส 0-2 ช่วงวันที่ 19 เดือนสิงหาคม, เกมลีกนัดหมายปราชัย อาร์เซน่อล 1-3 ช่วงวันที่ 3 เดือนกันยายน, นัดหมายพ่ายต่อ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 1-3 ในลีกตอนวันที่ 16 เดือนกันยายน รวมทั้งเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่กลุ่มของ เอริค เทน ฮาก แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 3-4 ในวันที่ 20 เดือนกันยายน
หากว่านับเฉพาะใน พรีเมียร์ลีก มันก็จะพบว่าความไม่เหมือนของ แมนยู ในช่วงฤดูกาลนี้ระหว่างมีกับไม่มีแนวรับผู้ครอบครองความสูง 175 ซม.มันจัดว่าไม่น้อยเลยทีเดียวเป็นต้นว่าอัตราชนะที่จะมากถึง 54.5 เปอร์เซ็นต์ขณะที่ มาร์ตำหนิเนซ ลงเล่นได้ แต่ว่าพอเพียงไม่มีเงาเขาแล้วมันกลับลดฮวบอยู่ที่เพียงแค่ 44.4 เปอร์เซ็นต์
นอกเหนือจากนี้ แมนยู ยังปลดปล่อยให้คู่ปรับได้โอกาสยิงใส่เฉลี่ยแล้ว 10 ครั้งต่อ 1 นัดหมาย ในเวลาที่ มาร์ว่ากล่าวเนซ รอทำงานในดินแดนข้างหลัง ในทางตรงกันข้าม เมื่อไม่มีเขาแล้วนั้นคู่ต่อสู้ยังได้ทดลองยิงใส่ แมนยู เฉลี่ยแล้วมากถึงเกมละ 20.6 ครั้งต่อเกมอย่างยิ่งจริงๆ
เวลาเดียวกัน คู่ปรับของ แมนยู ก็มีจังหวะค่าความเป็นไปได้สำหรับเพื่อการยิงตรงกรอบมากถึง 1.89 ครั้งต่อนัดหมายขณะที่ มาร์ติเตียนเนซ ลงเล่นให้ แมนยู ไม่ไหวด้วย ในขณะที่ตอนมีเขานั้นจำนวนด้านนี้อยู่ที่เพียงแต่เกมละ 0.88 ครั้ง
ด้วยเหตุผลดังกล่าว มันก็เลยไม่น่าประหลาดใจเลยที่ แมนยู จะเก็บคลีนชีทในลีกได้ 3 จากทั้งผอง 11 เกมที่ มาร์ตำหนิเนซ อยู่ช่วยในดินแดนรับ หรือคิดเป็น 27 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในปริมาณ 27 เกมที่ไม่มีเขา "ภูติผีปีศาจแดง" สามารถเก็บคลีนชีทได้เพียงแค่ 6 ครั้ง หรือก็คือ 22 เปอร์เซ็นต์
ส่วนค่าถัวเฉลี่ยการเสียประตูนั้น แมนยู เสียไปนัดหมายละ 1.1 ลูกเวลาที่มี มาร์ติเตียนเนซ อยู่ในสนาม ส่วนในเหตุการณ์สลับกันนั้นพวกเขาเสียประตูเฉลี่ยแล้ว 1.4 ลูกต่อเกม
จำนวนพวกนี้เป็นสิ่งที่ตอกย้ำซ้ำเติมว่า มาร์ตำหนิเนซ เป็นตัวต่อที่สำคัญอย่างยิ่งของ เทน ฮาก แม้กระนั้นอีกมุมหนึ่งนั้นมันก็อาจไม่เหมาะสมเท่าไรนักถ้าเกือบทุกอย่างของกลุ่มจำเป็นต้องขึ้นกับสภาพร่างกายของนักฟุตบอลเพียงผู้เดียว ด้วยเหตุนี้อีกทั้งเรื่องการบาดเจ็บของ มาร์ติเตียนเนซ และก็การปรับแก้เหตุการณ์เฉพาะหน้าให้ดียิ่งกว่านี้ถ้าเกิดไม่มี มาร์ว่ากล่าวเนซ ก็เลยเป็นปัญหาที่ เทน ฮาก ต้องหาแนวทางแก้ให้ได้ ถ้าเกิดเขายังได้อยู่กับกลุ่มถัดไป
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufa
|