หงส์แดง ชุดเด็กน้อยไม่ทำให้ สาวก "เดอะ ค็อป" จำต้องผิดหวังเมื่อสามารถแทรกชนะ ชรูว์สบิวปรี่ 1-0 ที่สนามแอนฟิลด์ ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดหมายรีเพลย์ เมื่อวันอังคารที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาได้เสร็จ ทำให้เดี๋ยวนี้ "ลิเวอร์พูล" โบยบินไปดวลกับ เชลซี ในรอบถัดไป
หากว่าเกมนี้ หงส์แดง ชุดอายุต่ำที่สุดในหน้าความเป็นมาศาสาตร์สมาคม จึงควรสู้กับหน้าแข้งคนแก่ที่มีประสบการณ์ แต่ว่าพวกเขาชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพ และก็ความเก่งกล้าสำหรับในการเล่น กระทั่งกดกลุ่มเยี่ยมได้อยู่มือ แม้ว่าจะมีบางจังหวะที่โดนนักฟุตบอลชรูว์สบิวปรี่ บุกมาข่มขู่บ้าง แม้กระนั้นพวกเขาก็ไม่หวั่นไหว

ที่สำคัญเกมนี้ถ้าหากมิได้ "วีเออาร์" ยึดประตู ชรูว์สบิวปรี่ อาจจะทำให้ "เดอะ เร้ดส์" จำเป็นต้องโบกไม้โบกมือลาถ้วยใบนี้ไปแล้ว ช่วงเวลาเดียวกันสิ่งที่น่าปวดซ้ำสองสำหรับกลุ่มในลีก วัน ก็คือการที่พวกเขาจำเป็นต้องไม่เข้ารอบด้วยวิธีการทำเข้าประตูตนเองของ โรฌอน วิลเลี่ยมส์ !!!

1. โจนส์ ยิ่งเล่นยิ่งปรับปรุง
พบร์เก้น คล็อปป์ พอใจ เคอร์ตำหนิส โจนส์ มาตลอดรวมทั้งใส่ชื่อของเขาลงเล่นในกลุ่มชุดใหญ่หลายเกม ซึ่งผลงานในแมตช์ปัจจุบัน บอกให้เห็นแล้วว่า ดาวเตะวัย 19 ปี มีคุณลักษณะสมควรที่จะก้าวขึ้นมาเป็นอันมากหลักให้กับกองทัพ "ลิเวอร์พูล" ในอนาคตแน่ๆ

ก่อนหน้า โจนส์ ก็เบาๆเปล่งแสงเจิดสว่างในฐานะสตาร์ลูกหนังคนใหม่จากการลงเล่นศึกเอฟเอ คัพ 2 รอบก่อนหน้าที่ผ่านมา แล้วก็ในแมตช์ต่อกร ชรูว์สบิวปรี่ บรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" ในแอนฟิลด์ ต่างซาบซึ้งใจฟอร์มของเจ้าตัวอีกรอบ รวมทั้งคิดว่านี่เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลดาวรุ่งที่เก่งที่สุดของชมรม

โจนส์ ชี้ให้เห็นถึงการเล่นที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น แล้วก็พร้อมที่จะแบกรับแรงกดดันทุกต้นแบบ ที่สำคัญนักฟุตบอลกล้าเล่นกล้าครอบครองบอล และก็รอปฏิบัติหน้าที่คุมเกมให้กับกลุ่ม ยิ่งไปกว่านี้เขายังชี้ให้เห็นถึงความสามารถชั้นเลิศด้วยการป่วนปั่นแนวรับแขกได้ตลอด และก็ทำให้จำเป็นต้องทำฟาวล์เขาเป็นประจำ

นอกเหนือจากการที่จะทำผลงานชื่นชอบ คล็อปป์ รวมทั้งเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ทั้งโลกแล้ว โจนส์ ยังสร้างสถิติเป็นกัปตันกลุ่ม "ลิเวอร์พูล" อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ ด้วยวัย 19 ปี กับ 5 วันอีกด้วย มองเห็นอย่างนี้แล้ว อนาคตถ้าหากไม่ใจร้อน มีลุ้นได้ยึดตำแหน่งตัวจริงยาวๆแน่ๆ

2. เทรนต์ ตระเตรียมพบคู่แข่งขันแย่งแบ็กขวา
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยอดเยี่ยมในนักฟุตบอลดาวรุ่งที่ผลงานดีเยี่ยมสุดๆในตอน 2-3 อาทิตย์ฤดูก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา รวมทั้งเดี๋ยวนี้เขาเป็นผู้เล่นตำแหน่งแบ็กขวาที่เก่งที่สุดของสมาพันธ์ รวมทั้งยอดเยี่ยมในฟูลแบ็กที่ได้รับการเฝ้าดูว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของโลก

อย่างไรก็แล้วแต่การที่ "เจ้าหนูเทรนต์" จำเป็นต้องกรำศึกหนักในวันเพียงแต่ 21 ปีร่างกายบางครั้งอาจจะกรอบรวมทั้งมีการเจ็บได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวก็เลยเริ่มมีปริศนาออกมาโดยตลอดจากแม้ ดาวเตะกลุ่มชาติอังกฤษ กำเนิดได้รับบาดเจ็บหนักขึ้นมา ตำแหน่งแบ็กขวาของหงส์แดง คนไหนกันแน่จะลงปฏิบัติหน้าที่แทน

เจมส์ ไม่ลเนอร์ ? เดี๋ยวนี้ก็อายุมากแล้ว, โจ โกเมซ เคยปฏิบัติภารกิจนี้แม้กระนั้นก็ไม่เด่น หรือจะเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตัน "ลิเวอร์พูล" ก็เคยทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้ชั่วครั้งคราว แม้กระนั้นช่วงนี้ดูราวกับว่า คล็อปป์ คงจะได้คำตอบแล้วเมื่อได้ผลงานของ เนโก วิลเลี่ยมส์

ฟูลแบ็กชาวเวลส์ วัย 18 ปี โชว์ฟอร์มได้อย่างสะดุดตาโดยเล่นเกมยอมรับได้เข้มแข็ง แล้วก็เพิ่มเติมเกมรุกได้ดุเดือด แมตช์นี้ยังบอกให้เห็นถึงความชำนาญสำหรับเพื่อการเปิดบอลที่คมมาก โดยยิ่งไปกว่านั้นในจังหวะที่กลุ่มได้ประตู จำเป็นต้องบอกเลยว่าถึงแม้ว่าจะ โรฌอน วิลเลี่ยมส์ ไม่โหม่งพลาดเข้าประตูตนเอง บอลก็มีสิทธิ์เลยเข้าทาง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และก็จบสกอร์ก็เป็นได้

ช่วงเวลาเดียวกันถ้ามองดูอีกมุมงานนี้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะนิ่งดูดายในฐานะแบ็กขวาเบอร์ 1 ของ "ลิเวอร์พูล" ถัดไปมิได้ เนื่องจากว่าถ้าเกิดไม่ปรับปรุงฝีเท้า หรือกำเนิดฟอร์มหลุด มีหวังโดน "เจ้าหนูวิลเลี่ยมส์" เร่งเครื่องแย่งเก้าอี้เอาได้อย่างไม่ยากเย็น

3. "วีเออาร์" กลับชีวิต "หงส์จูเนียร์"
หลายท่านชอบเห็นว่า หงส์แดง เป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก "วีเออาร์" (VAR) หลายต่อบ่อยมากในเกมพรีเมียร์ลีก ฤดูนี้ ซึ่งมีผลต่อผลที่เกิดขึ้นจากการแข่งขัน แล้วก็ทำให้พวกเขายังคงรักษาสถิติไม่แพ้คนใดกันในเกมลีกฤดูกาลนี้ ระหว่างที่เหล่า "หงส์น้อย" ก็ได้ "วีเออาร์" ช่วยทำให้รอดจากการเสียประตูเหมือนกัน

จำต้องสารภาพว่าการปฏิบัติภารกิจของระบบ "วีเออาร์" ในช่วงฤดูกาลแรกสำหรับเกมบอลในอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นเกมลีก รวมทั้งบอลถ้วย ต่างโดนวิจารณ์อย่างมาก เกี่ยวกับมาตรฐานสำหรับในการใช้ระบบ ด้วยเหตุว่ามันชอบมีผลต่อรูปเกม และก็ผลจากการแข่งขันหลายต่อหลายแมตช์

เหตุดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเกิดขึ้นเมื่อ เดวิด เอ็ดเวิร์ดส์ ยิงติดเซฟ ควีวีน เคลเลเฮอร์ โกลดาวรุ่ง แต่ว่าซวยมาเข้าทาง ฌอน วอลลี่ย์ กระแทกซ้ำเข้าไป แต่ว่าผู้ตัดสินคอยฟัง "วีเออาร์" ก่อนยึดสกอร์คืนเพราะนักฟุตบอลยืนล้ำหน้าไปก่อนแล้ว งานนี้ทำเอา หงส์แดง เบาใจ แล้วก็ยังสามารถอยู่ในเกมของตนถัดไป

ด้วยแวดวงบอลยุคใหม่ ระบบเทคโนโลยีมีส่วนต่อผลที่ได้รับจากการแข่งขันอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าถ้าเกิดเป็นแต่ก่อนจังหวะดังที่กล่าวมาข้างต้นผู้ตัดสินบางครั้งอาจจะให้เป็นประตูก็ได้ !!??!!

4.เด็กแล้วยังไง !
ในเวลาที่ คล็อปป์ ประกาศไม่ส่งชุดใหญ่ลงเล่นนัดหมายรีเพลย์ แน่ๆว่าหลายๆคนค่อนข้างจะเป็นห่วงว่า หงส์แดงวัยกระเต๊าะ จะเอาชีวิตรอดได้หรือเปล่า หากว่า ชรูว์สบิวปรี่ จะเป็นกลุ่มในระดับ ลีก วัน แม้กระนั้นนักฟุตบอลโดยมากก็เป็นระดับคนแก่มีประสบการณ์ ส่วนหน้าแข้ง "ลิเวอร์พูล" บางบุคคลยังไม่เคยลงเล่นเกมอย่างเป็นทางการด้วย

ภายหลังมีการประกาศ 11 ตัวจริงของ หงส์แดง ในเกมนี้ บอกเลยว่าสาวก "เดอะ ค็อป" ทำใจกันแล้ว เนื่องจากกลุ่มชุดนี้แก่เฉลี่ยเพียงแค่ 19 ปี กับ 102 วัน แค่นั้นนับว่าเป็นกลุ่มตัวจริงอายุเฉลี่ยน้อยสุดในประวัติศาสตร์ชมรมซึ่งเป็นครั้งลำดับที่สองของในฤดูกาลนี้ โดยสถิติเดิมของพวกเขาพึ่งเกิดขึ้นในเกม ค้างราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่บุกไปแพ้ แอสตัน วิลล่า 0-5 เมื่อกลางเดือนธ.ค. ปีที่ผ่านมา ซึ่งชุดดังกล่าวข้างต้นอายุเฉลี่ยกลุ่มตัวจริงอยู่ที่ 19 ปี กับ 182 วัน

หากว่าอายุและก็ประสบการณ์จะน้อยกว่า แม้กระนั้นผลงานของนักฟุตบอลกลุ่มนี้นับว่ายอดเยี่ยม เมื่อสามารถครอบครองเกมได้เหนือกว่า ชรูว์สบิวปรี่ โดยสถิติสำหรับในการครอบครองเกม 58 เปอร์เซ็นต์, จังหวะทำประตู 12 ครั้ง ตรงเป้า 4 ครั้ง เวลาที่แขกยิงไม่เข้าเปาเลย

โดยเหตุนี้เห็นได้ชัดว่าเด็กชุดนี้มีหัวจิตใจนักสู้เกินร้อย แล้วก็กล้าเล่น กล้าเสี่ยง กล้าครอบครองบอล แน่ๆว่าสิ่งที่พวกเขาทำเป็นการทดแทนความวางใจของ คล็อปป์ แล้วก็ นีล คริทช์ลี่ย์ ผู้จัดการทีมรุ่น ยู 23 ที่ปฏิบัติหน้าที่จับบังเ***ยนในเกมนี้

5. แอนฟิลด์ ดินแดนต้องห้ามกลุ่มเยี่ยม
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชุดใหญ่หรือชุดเด็ก ในตอนนี้ หงส์แดง ทำผลงานได้อย่างแกร่งเมื่อเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ โดยพวกเขาสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น 40 เกมในบ้านตนเองจากการแข่งขันชิงชัยทุกรายการ (ชนะ 35, เสมอ 5) ที่สำคัญ 7 เกมหลังสุดพวกเขาชนะรวดแถมไม่เสียประตูซะด้วย

อย่างไรก็แล้วแต่ รอบ 5 "ลิเวอร์พูล" จำเป็นต้องไปเยี่ยม "สิงโตสีน้ำเงินคราม" เชลซี ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ แน่ๆว่า คล็อปป์ อาจจะไม่กล้าที่จะใช้เด็กลงไปในสนามทั้งสิ้น ด้วยเหตุว่าถ้าหากทำอย่างงั้นได้โอกาสที่พวกเขาจะแพ้ยับราวกับที่เคยโดน แอสตัน วิลล่า ผลาญจนกระทั่งหาทางกลับไปอยู่บ้านผิดสกอร์ 5-0 ในศึกติดอยู่ราบาว คัพ

ช่วงเวลาเดียวกันถ้าเกิดดูอีกมุม มีความน่าจะเป็นไปได้ที่ คล็อปป์ อาจจะเริ่มต้นคิดเอาจริงเอาจังกับโทรฟี้โบราณสุดในโลก เนื่องด้วยในช่วงเวลานี้ หงส์แดง อยู่บนทางสำหรับการลุ้น 3 แชมป์ ด้วยเหตุนี้ก่อนที่จะถึงเกมเยี่ยม เชลซี ต้นเดือนมี.ค. ถ้าเกิดผลงานในลีกออกจะฉลุยแล้วละก็ งานนี้คงจะได้มองเห็น "เครื่องจักรสีแดง" แบบเต็มดูดก็ได้

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ คาสิโนออนไลน์