[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
ย้อนดูผลงาน เฮนเดอร์สัน เจ้าของรางวัลนักเตะอังกฤษยอดเยี่ยมของปี 201  VIEW : 880    
โดย 222

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 3
ตอบแล้ว : 7
เพศ :
ระดับ : 2
Exp : 63%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 125.25.115.xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 16 เดือน มกราคม พ.ศ.2563 เวลา 13:24:15   

การประกาศผลรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของอังกฤษ ประจำปี 2019 ของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันอังคารที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งในฝั่งชาย รางวัลนี้ตกเป็นของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางคนดังจาก ลิเวอร์พูล

ต้องขอชี้แจงก่อนว่ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของอังกฤษ เป็นรางวัลที่ตัดสินจากผลงานในเกมกับทีมชาติอังกฤษเท่านั้น ไม่ได้มองถึงผลงานในระดับสโมสร ซึ่งที่จริง 2 ปีก่อนหน้านี้รางวัลมันตกเป็นของ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงคนเก่งของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ

นี่นับเป็นครั้งแรกที่ เฮนเดอร์สัน ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ และเป็นครั้งที่ 4 ที่เจ้าของรางวัลนี้เป็นนักเตะจาก ลิเวอร์พูล ต่อจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในปี 2007, ปี 2010 ที่ เจอร์ราร์ด ได้รางวัลอีก 1 สมัย และปี 2016 ที่เป็นของ อดัม ลัลลาน่า ซึ่งวันนี้เราจะมาย้อนดูกันว่าในปี 2019 เฮนเดอร์สัน ทำผลงานด้านไหนได้โดดเด่น โดยจะวัดจากผลงานในเกมที่มีความหมายเท่านั้น ไม่ได้นับรวมพวกเกมอุ่นเครื่องเข้าไปด้วย

    - การผ่านบอล
ถึงแม้ว่าบทบาทส่วนใหญ่ที่ เฮนเดอร์สัน ไดัรับ จะเป็นการช่วยเล่นเกมรับ แต่เขาเองก็มีทักษะด้านเกมรุกเหมือนกัน แถมที่จริงแล้วเจ้าตัวก็ชอบเล่นเกมรุกมากกว่าเกมรับอยู่หน่อยๆ ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในบทบาทสำคัญด้านการเล่นเกมรุกก็คือการผ่านบอล

ทั้งนี้ ตลอดทั้งปี 2019 เฮนเดอร์สัน สามารถผ่านบอลเข้าเป้าในตอนเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ 86 เปอร์เซ็นต์ แถมยังสร้างโอกาสทำประตูให้ทีมได้อีก 1 ครั้ง โดยเกมที่เขาผ่านบอลได้ดีที่สุดคือเกม ยูโร 2020 รอบคัดเลือก นัดชนะ บัลแกเรีย 6-0 เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่ผ่านบอลเข้าเป้า 92 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกัน มันก็มีถึง 2 เกมที่เขาผ่านบอลเข้าเป้า 91 เปอร์เซ็นต์ด้วย ได้แก่เกม ยูโร 2020 รอบคัดเลือก นัดชนะ มอนเตเนโกร 5-1 เมื่อช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา และรายการเดียวกันที่ทุบ โคโซโว 5-3 เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ มันยังมีเกมชนะ บัลแกเรีย 4-0 ที่เขาผ่านบอลเข้าเป้าถึง 90 เปอร์เซ็นต์ด้วย โดยตลอดทั้งปีนี้มีแค่เกมเดียวที่เขาเล่นให้ อังกฤษ และมีเปอร์เซ็นต์ผ่านบอลเข้าเป้าต่ำ ได้แก่เกม ยูโร รอบคัดเลือก นัดแพ้ สาธารณรัฐเช็ก 1-2 เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่ผ่านบอลเข้าเป้าเพียง 67 เปอร์เซ็นต์

    - การตัดบอล
เฮนเดอร์สัน ยังคงโชว์การเล่นเกมรับที่น่าประทับใจได้ หลังจากตลอดทั้งปีนี้เขาอ่านเกมได้ดีจนตัดบอลได้โดยที่ไม่ต้องพุ่งเสียบ 4 ครั้ง กับการเล่นให้ อังกฤษ ซึ่งในบรรดา 6 เกมแบบมีความหมาย (หมายถึงไม่นับรวมเกมอุ่นเครื่อง) ที่เขาลงเล่นให้ อังกฤษ ในปีนี้นั้น "สิงโตคำราม" เก็บคลีนชีทได้ 3 นัด

ขณะที่พอถึงจังหวะที่ต้องพุ่งเสียบ เฮนเดอร์สัน ก็ยังทำได้ดีพอตัว เพราะตลอดทั้งปีนี้เขามีจังหวะพุ่งสกัด 7 ครั้ง และเสียบโดนบอล 5 หน โดย 2 ครั้งที่พลาดไปนั้นเกิดขึ้นในเกม ยูโร รอบคัดเลือก กับ บัลแกเรีย และ เกม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ อย่างละ 1 นัด

    - จังหวะดวลลูกกลางอากาศ
ตลอดทั้งการเล่นให้ อังกฤษ ในเกมแบบมีความหมายของปี 2019 นั้น มีอยู่เกมเดียวที่ เฮนเดอร์สัน ต้องออกแรงเล่นลูกกลางอากาศ ได้แก่เกม ยูโร 2020 รอบคัดเลือก นัดเยือน เช็ก เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มันก็ถือเป็นเกมที่เขาต้องใช้ความสามารถในการเล่นลูกกลางอากาซในระดับหนึ่ง

ในเกมนั้น เฮนเดอร์สัน มีจังหวะที่ต้องดวลลูกกลางอากาศกับนักเตะ เช็ก ถึง 4 ครั้ง แบ่งเป็นตอนเล่นเกมรับกับเกมรุกอย่างละ 2 หน และเขาก็เอาชนะได้รวมแล้ว 3 ครั้ง น่าเสียดายที่มันไม่ดีพอที่จะทำให้ทีมของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต มีแต้มติดมือ เพราะสุดท้ายแล้ว อังกฤษ แพ้ไป 1-2

เพิ่มเติม : blogsoldiers.com