นิด้าโพล ชี้ ปชช. 80.53% หนุนสวมชุดนักเรียน และ 59.47% เห็นว่าควรบังคับต่อไป
หนุนสวมชุดนักเรียน เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “สิทธิ เสรีภาพ และกฎระเบียบในโรงเรียน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 21-23 มิถุนายน 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ และกฎระเบียบในโรงเรียน การสำรวจอาศัย
หนุนสวมชุดนักเรียน จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อเครื่องแบบนักเรียน
พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 80.53 ระบุว่า เพื่อส่งเสริมความมีระเบียบวินัย รองลงมา ร้อยละ 35.65 ระบุว่า เป็นการบ่งบอกถึงสถานศึกษาของนักเรียน
ร้อยละ 23.82 ระบุว่า เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ร้อยละ 21.76 ระบุว่า ทำให้ผู้ปกครองประหยัด ร้อยละ 20.23 ระบุว่า เป็นการป้องกันการแอบอ้างเป็นนักเรียน ร้อยละ 18.17 ระบุว่า เป็นความภาคภูมิใจของนักเรียน/ผู้ปกครอง ร้อยละ 11.53 ระบุว่า เพิ่มภาระด้านการเงินให้ผู้ปกครอง ร้อยละ 10.00
ระบุว่า ไม่สามารถนำไปใช้ได้ในทุกๆ โอกาส ร้อยละ 6.18 ระบุว่า เป็นการแบ่งชนชั้นระหว่างโรงเรียน ร้อยละ 4.73 ระบุว่า เป็นการจำกัดเสรีภาพของนักเรียน ร้อยละ 2.60 ระบุว่า ทำให้นักเรียนไม่ปลอดภัย ร้อยละ 2.29 ระบุว่า เป็นเครื่องหมายของการกดขี่/อำนาจนิยม และร้อยละ 0.15 ระบุว่า
เฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อแนวคิดยกเลิกการบังคับใส่เครื่องแบบนักเรียนไปโรงเรียน
พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 59.47 ระบุว่า การบังคับให้ใส่เครื่องแบบนักเรียนไปโรงเรียนควรมีต่อไป รองลงมา ร้อยละ 20.69 ระบุว่า ในรอบสัปดาห์ควรอนุญาตให้ใส่ชุดอื่นๆ (ชุดไปรเวต) ไปโรงเรียนได้บ้าง
ร้อยละ 5.88 ระบุว่า สมควรให้นักเรียนได้มีอิสระที่จะเลือกว่าจะใส่เครื่องแบบนักเรียนไปโรงเรียนหรือไม่ ร้อยละ 5.04 ระบุว่า ควรให้เรื่องการใส่เครื่องแบบนักเรียนอยู่ในดุลยพินิจของผู้บริหารแต่ละโรงเรียน ร้อยละ 4.50 ระบุว่า ควรให้เรื่องการใส่เครื่องแบบนักเรียนเป็นไปตามประชามติของนักเรียน
ในแต่ละโรงเรียน ร้อยละ 4.27 ระบุว่า สมควรยกเลิกการใส่เครื่องแบบนักเรียนไปโรงเรียน และร้อยละ 0.15 ระบุว่า เฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
เมื่อถามถึงจำนวนวันจากผู้ที่ระบุว่าในรอบสัปดาห์ควรอนุญาตให้ใส่ชุดอื่นๆ (ชุดไปรเวต) ไปโรงเรียนได้บ้าง (จำนวน 271 หน่วยตัวอย่าง) พบว่า
ตัวอย่าง ร้อยละ 47.60 ระบุว่า 1 วันต่อสัปดาห์ รองลงมา ร้อยละ 37.64 ระบุว่า 2 วันต่อสัปดาห์ ร้อยละ 14.02 ระบุว่า 3 วันต่อสัปดาห์
และร้อยละ 0.74 ระบุว่า 4 วันต่อสัปดาห์
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อการเรียนวิชาด้านคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมในโรงเรียน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 72.52 ระบุว่า เห็นด้วยมาก
รองลงมา ร้อยละ 18.24 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 5.04 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 3.59 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย และร้อยละ 0.61 ระบุว่า เฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สรุป
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อกฎระเบียบของโรงเรียน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 69.16 ระบุว่า กฎระเบียบของโรงเรียนมีเพื่อส่งเสริมความมีระเบียบวินัย รองลงมา ร้อยละ 46.49 ระบุว่า กฎระเบียบของโรงเรียนมีเพื่อให้นักเรียนตระหนักในสิทธิ หน้าที่และความรับผิดชอบ
ร้อยละ 36.41 ระบุว่า สิทธิเสรีภาพของนักเรียนควรอยู่ภายใต้กฎระเบียบของโรงเรียน ร้อยละ 12.29 ระบุว่า กฎระเบียบของโรงเรียนสำคัญกว่าสิทธิเสรีภาพของนักเรียน ร้อยละ 9.31 ระบุว่า กฎระเบียบของโรงเรียนเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของนักเรียน ร้อยละ 4.05 ระบุว่า สิทธิเสรีภาพของนักเรียนสำคัญกว่ากฎระเบียบของโรงเรียน ร้อยละ 2.44 ระบุว่า กฎระเบียบของโรงเรียนเป็นเครื่องหมายของการกดขี่/อำนาจนิยม และร้อยละ 0.31 ระบุว่า เฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
อ้างอิง
https://www.matichon.co.th/
https://have-a-look.net/2023/06/25/%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%8a%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%99-%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%81/
|