แมนฯ ยูไนเต็ด คืนฟอร์มเก่ง เปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ขยี้ทีมบ๊วย นอริช 4-0 โดย มาร์คัส แรชฟอร์ด เหมา 2 ลูก ขณะที่จอมเก๋า ฆวน มาต้า ใส่พานงามๆ 2 ดอกส์  ให้ "ปีศาจแดง" เก็บสามแต้ม แซง เชฟฯ ยูไนเต็ด กลับไปรั้งอันดับห้าของตารางพรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ 11 ม.ค. 63
     แมนฯ ยูไนเต็ด หวังโชว์ฮึดจากการพ่าย แมนฯ ซิตี้ คารังใน ลีก คัพ เมื่อมิดวีก เกมนี้มีข่าวดีเมื่อ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ฟิตกลับมาสวมปลอกแขนกัปตันทีมบู๊ทีมบ๊วย นอริช โดย โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ปรับ 4 ตำแหน่งจากชุดล่าสุด นอกจาก แม็กไกวร์ ที่เสียบแทน ฟิล โจนส์ แล้ว ยังให้ เนมานย่า มาติช, ฆวน มาต้า และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แทน แดเนี่ยล เจมส์, เจสซี่ ลินการ์ด และ เมสัน กรีนวู้ด

     ด้านทีมเยือน นกขมิ้นเหลือง-อ่อน มีการเปลี่ยนแปลงเพียงจุดเดียวจากทีมชุดเสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 ในวันปีใหม่ โดย ติโม ปุ๊กกี้ กองหน้าตัวเก่งที่เจ็บ ถูกแทนที่ด้วย อดัม อิดาห์ แข้งไอริชที่เพิ่งเคยได้เป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกนัดแรก หลังระเบิดแฮตทริกใส่ เปรสตัน ใน เอฟเอ คัพ
 
     เจ้าถิ่นเดินหน้าลุยแหลก น.10 มาร์คัส แรชฟอร์ด ใช้ความสามารถเฉพาะตัวลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนเปิดเข้ากลางได้น่าหวาดเสียวทว่าโดนสกัดทิ้ง ถัดมาสองนาที มาต้า ทะลุขึ้นทางขวาแล้วจิ้มให้ มาร์กซิยาล จับแล้วพลิกตัว ก่อนถูก ซิมเมอร์มัน สะกิดขา ทว่าผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป

     ปีศาจแดง เป็นฝ่ายครองบอลบุกได้มากกว่า แต่หวิดช็อกเหมือนกันเมื่อเจอเกมโต้กลับของ นอริช ในน.26 เมื่อ ท็อดด์ แคนท์เวลล์ หลุดขึ้นทางซ้ายแล้วเปิดเข้ากลางให้ อิดาห์ พุ่งชาร์จ โชคดีของเจ้าถิ่นที่ แม็กไกวร์ ยังตาม บล็อกได้ทัน

     อย่างไรก็ตาม นาทีต่อมา หรือ น.27 แฟนผีได้เฮจนได้ เมื่อ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ พาบอลขึ้นมาถึงกลางสนามก่อนจ่ายออกขวาให้ มาต้า ที่ตัดเข้าในแล้วเปิดโค้งด้วยซ้ายไปเสาสองให้ แรชฟอร์ด พุ่งแหย่เท้าทิ่มเข้าไปให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0

     หลังได้ประตู เจ้าบ้านยังลุยต่อ อันเดรียส เปเรยร่า และ แรชฟอร์ด มีโอกาสสับไก แต่ได้แค่หวาดเสียว ก่อนที่ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ แบ็กซ้ายดาวรุ่งจะพาบอลขึ้นมาเปิดให้ เฟร็ด วิ่งมาแปด้วยซ้ายถากเสาไปนิดเดียวใน น.35

     ท้ายครึ่งแรก น.44 นอริช หวิดช็อกกองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ เมื่อ แคนท์เวลล์ บรรจงปั่นด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ ดาบิด เด เคอา พุ่งปัดได้เยี่ยม จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำอยู่ 1-0

กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ 4 นาที หรือ น.49 แรชฟอร์ด จ่ายให้ วิลเลี่ยมส์ สปีดเข้าไปถึงบอลในกรอบเขตโทษก่อนถูก ทิม ครูล ปัดขาล้ม ผู้ตัดสิน เทย์เลอร์ ชี้เป็นจุดโทษทันที และ แรชฟอร์ด ที่เคยพลาดจุดโทษมาแล้วถึง 2 ครั้งในการดวล นอริช นัดแรกที่ แคร์โรว์ โร้ด อาสาสังหาร และคราวนี้ "แรช" ไม่พลาดกดเน้นๆ ล้างแค้น ครูล ได้สำเร็จ เป็นลูกที่ 16 ในซีซั่นนี้ พร้อมส่ง แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 2-0 ขณะที่ตัวเขาเองก็มีลุ้นแฮตทริกด้วย

      สกอร์ไหล น.54 ปีศาจแดง หนี 3-0 จากจังหวะฉวยโอกาสเล่นเตะมุมเร็วทางด้านขวา มาต้า รับบอลก่อนครอสให้ มาร์กซิยาล เทกตัวขวิดจมตาข่าย เรียกเสียงเฮแฟนผีดังกระหึ่ม

     แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ใจ น.58 จากจังหวะโต้กลับเร็ว เฟร็ด วางให้ มาร์กซิยาล ควบหลุดขึ้นทางขวาแล้วตวัดเลยมาถึงเสาสองให้เจ้าหนูวิลเลี่ยมส์ที่วิ่งขึ้นมาแปเน้นๆ แต่ข้ามคานไปอย่างเหลือเชื่อ จากนั้น โซลชา ขยับถอด แรชฟอร์ด ไปพัก แล้วส่ง เจมส์ ลงแทน

     จากนั้น เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย โซลชา ส่ง กรีนวู้ด ลงแทน เปเรยร่า และเข้าสู่น.76 กรีนวู้ด ก็แผลงฤทธิ์เมื่อได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนหาช่องกดด้วยซ้ายจากหัวกะโหลกเสียบมุมเด็ดขาดบวกสกอร์ให้ ปีศาจแดง ทะยาน 4-0

     เหลืออีก 10 นาที โซลชาถอด มาร์กซิยาล ออกแล้วส่งเจ้าหนูโกเมสลงสนาม ก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด ปิดเกมเอาชนะไปสวยงาม 4-0 พร้อมแซง เชฟฯ ยูไนเต็ด ขึ้นไปรั้งอันดับห้าบนตารางพรีเมียร์ลีกก่อนมีคิวดวล วูล์ฟส์ ใน เอฟเอ คัพ นัดรีเพลย์มิดวีก ต่อด้วยศึกแดงเดือดกับ ลิเวอร์พูล ช่วงสุดสัปดาห์

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

     แมนฯยูไนเต็ด: ดาบิด เด เคอา - แอรอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ - เฟร็ด, เนมานย่า มาติช - ฆวน มาต้า, อันเดรียส เปเรยร่า (เมสัน กรีนวู้ด น.71), มาร์คัส แรชฟอร์ด (แดเนียล เจมส์ น.59) - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (แองเจล โกเมส น.80)

     สำรองไม่ได้ใช้: ฟิล โจนส์, ดีโอโก้ ดาโลต์, ลี แกรนท์, ทาฮิธ ชอง

     นอริช ซิตี้: ทิม ครูล - แม็กซ์ แอรอนส์, คริสตอฟ ซิมเมอร์มันน์, แกรนท์ ฮานลี่ย์ (จามาล เลวิส น.80), แซม ไบรั่ม - อเล็กซานเดอร์ เทตเตย์, มาริโอ วรันซิช (โอเนล เอร์นานเดซ น.65) - เอมิเลียโน่ บวนเดีย, เควิน แม็คลีน, ท็อดด์ แคนท์เวลล์ - อดัม อิดาห์ (อิบราอิม อามาดู น.65)

     สำรองไม่ได้ใช้: โมริตซ์ ไลท์เนอร์, มาร์โค ชตีเปอร์มันน์, ทอม ทรัยบูลล์, ราล์ฟ เฟร์หมันน์

     ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์

เพิ่มเติม : cescompany.com