ติดเชื้อ แบคทีเรียในช่องคลอด กับโรคแทรกซ้อนที่ผู้หญิงควรระวัง
โดย จิดาภา ติยะสิริทานนท์
ทบทวนบทความโดย ทีม Hello คุณหมอ
ติดเชื้อ แบคทีเรียในช่องคลอด กับโรคแทรกซ้อนที่ผู้หญิงควรระวัง
การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด (Bacterial vaginosis) เป็นการติดเชื้อในช่องคลอดที่ไม่รุนแรง เกิดขึ้นเมื่อแบคทีเรียที่มีอยู่ในช่องคลอดเสียสมดุล แม้การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดจะไม่ใช่การติดเชื้อที่รุนแรง แต่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ก็อาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนที่อันตรายได้
อย่างไรก็ตาม หากคุณรู้จักสังเกตสัญญาณหรืออาการเบื้องต้นของการ ติดเชื้อ แบคทีเรียในช่องคลอด ก็จะช่วยให้สามารถเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เพื่อสุขอนามัยของคุณผู้หญิงทุกคนนะคะ
โรคแทรกซ้อนจากการ ติดเชื้อ แบคทีเรียในช่องคลอด
แม้การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดจะพบได้ทั่วไปในผู้หญิงวัย 18-44 ปี แต่หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา ก็อาจนำไปสู่โรคหรือภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงบางชนิดได้ เช่น
มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้ง่ายขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นเพิ่มขึ้น เช่น โรคหนองในเทียม โรคหนองในแท้
หากเข้ารับการผ่าตัด เช่น การตัดมดลูก การทำแท้ง ก็จะเสี่ยงติดเชื้อหลังผ่าตัดมากขึ้น
เสี่ยงเป็นโรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น เช่น การคลอดก่อนกำหนด ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อย
เสี่ยงเกิดภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่มดลูกและท่อนำไข่ ที่จะนำไปสู่การมีบุตรยาก
การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด สังเกตได้อย่างไรบ้าง
คุณควรดูแลช่องคลอดเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้ช่องคลอดติดเชื้อ หากคุณมีภาวะเหล่านี้ นั่นแปลว่าคุณมีความเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด และควรรีบไปพบคุณหมอทันที ห้ามละเลยเด็ดขาด
ตกขาวผิดปกติ
อาการทั่วไปที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด คือ ตกขาวมีกลิ่น แบคทีเรียในช่องคลอดมักมาพร้อมกับตกขาวสีเทาหรือสีเข้ม บางครั้งคุณอาจพบว่า ช่องคลอดของคุณมีกลิ่นคาวปลา ซึ่งกลิ่นอาจแย่กว่าเดิมหลังจากมีเพศสัมพันธ์ นอกจากตกขาวผิดปกติแล้ว บางครั้งการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดก็อาจทำให้คุณรู้สึกคันในช่องคลอดได้ด้วย
รู้สึกแสบขณะปัสสาวะ
ผู้หญิงบางคนรู้สึกแสบขณะปัสสาวะ ความรู้สึกเจ็บปวดอาจเริ่มตั้งแต่ขณะที่ปัสสาวะ หรือหลังปัสสาวะ หากความเจ็บปวดเกิดขึ้นภายนอกช่องคลอดอาจเป็นเพราะช่องคลอดอักเสบหรือระคายเคืองคันบริเวณด้านนอกช่องคลอด
รู้สึกเจ็บระหว่างมีเพศสัมพันธ์
การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด อาจส่งผลให้คุณรู้สึกเจ็บปวดหรือแสบขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ หากคุณรู้สึกเจ็บปวดจนทนไม่ไหว หรืออาการที่เป็นทำให้รู้สึกไม่มีความสุขกับการมีเพศสัมพันธ์ ควรไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการวินิจฉัยอย่างเหมาะสม
ค่าความเป็นกรดด่างในช่องคลอดไม่สมดุล
หากช่องคลอดของคุณยังอยู่ในภาวะปกติ จะมีค่าความเป็นกรดด่างหรือค่าพีเอช (pH) อยู่ที่ 3.8 ถึง 4.5 แต่หากค่าความเป็นกรดด่างในช่องคลอดสูงกว่า 4.5 จะทำให้แบคทีเรียชนิดไม่ดีมีโอกาสเจริญเติบโตได้มากขึ้น คุณจึงเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การตรวจไม่ได้ยืนยันว่าคุณเป็นโรคนี้ วิธีที่จะยืนยันได้ดีที่สุดก็คือ การทดสอบการปนเปื้อนจุลินทรีย์ (swab test) แพทย์จะนำตัวอย่างตกขาวไปตรวจเพิ่มเติม
บางครั้งการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดก็ไม่ก่อให้เกิดอาการใดๆ ผู้หญิงบางคนที่ติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดอาจไม่พบสัญญาณหรืออาการบ่งชี้อย่างชัดเจน ทำให้ไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อนี้อยู่ จึงไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม จนกลายเป็นโรคหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่รุนแรงได้ในที่สุด ฉะนั้นหากคุณมีอาการใดๆข้างต้น ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที แพทย์จะได้ตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้องและเข้ารับการรักษา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
อ่านเพิ่มเติม:
โรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ คุณเสี่ยงแค่ไหน กรุ๊ปเลือดอาจบอกได้
8 สิ่งที่ควรทำหลังมี เพศสัมพันธ์ เพื่อสุขอนามัยที่ดีที่คุณไม่ควรละเลย
ช่องคลอดมีกลิ่น ปัญหาจุดซ่อนเร้นกับวิธีรับมือง่ายๆ
ติดเชื้อ แบคทีเรียในช่องคลอด ส่งผลยังไงกับคุณแม่ตั้งครรภ์
Share now :
แจกเครดิตฟรี ไม่ต้องฝาก ถอนได้ 2019
กับเว็บเกมส์ UFABET
อันดับ 1 ในเอเชีย
|