[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
ทำความรู้จัก ฟลาเม็งโก้ คู่แข่ง ลิเวอร์พูล เกมชิงดำสโมสรโลก  VIEW : 794    
โดย triangle

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 212
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 11
Exp : 77%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 184.22.178.xxx

 
เมื่อ : จันทร์ ที่ 23 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2562 เวลา 23:33:02   

ทำความรู้จัก ฟลาเม็งโก้ คู่แข่ง ลิเวอร์พูล เกมชิงดำสโมสรโลก

 

ก็เป็นอันว่า ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 ที่ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพได้สำเร็จ แม้จะต้องลุ้นเหนื่อยอยู่พอตัว หลังจากพวกเขามาได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกมจนทำให้ชนะ มอนเตอร์เรย์ ทีมจากเม็กซิโก 2-1 ในรอบรองชนะเลิศ เมื่อวันพุธที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา


          สำหรับคู่แข่งในนัดชิงดำของ ลิเวอร์พูล ก็คือ ฟลาเม็งโก้ สโมสรจากประเทศบราซิลที่เข้าไปนอนรอในรอบชิงชนะเลิศก่อนพวกเขา 1 วัน หลังจากที่ในรอบตัดเชือก ฟลาเม็งโก้ เอาชนะ อัล-ฮิลัล ทีมจากซาอุดิอาระเบีย 3-1 ซึ่งถ้าดูเผินๆ แล้ว ลิเวอร์พูล น่าจะเป็นต่อบานเบอะ เพราะชื่อชั้นดีกว่า แถมยังมีนักเตะชื่อดังหลายคนอยู่ในทีม


อย่างไรก็ตาม ทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะประมาท ฟลาเม็งโก้ ที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งรายการนี้จากการเป็นแชมป์ โกปา ลิเบอร์ตาดอเรส ประจำปี 2019 ไม่ได้เป็นอันขาด เพราะคู่แข่งรายนี้ถือว่าน่ากลัวในระดับหนึ่ง และวันนี้เราจะมาทำความรู้จักถึง ฟลาเม็งโก้ ชุดนี้กัน


- ฟอร์มโดยรวม
            นอกจากจะมียศเป็น "แชมป์ของทวีปอเมริกาใต้" จากการได้แชมป์ โกปา ลิเบอร์ตาดอเรส ประจำปี 2019 แล้วนั้น ฟลาเม็งโก้ ก็ยังทำผลงานในลีกได้ยอดเยี่ยมเหมือนกัน เพราะพวกเขาได้แชมป์ คัมเปโอนาโต้ บราซิเลยโร่ ซีรี่ เอ หรือก็คือลีกระดับชาติที่สูงที่สุดของประเทศไปครอง (บราซิล มีลีกระดับรัฐด้วย แต่เล็กกว่าลีกระดับประเทศ) จากการที่เก็บได้ถึง 90 คะแนน จากการลงเล่น 38 นัด


ถ้าถามว่าในฤดูกาลนี้ ฟลาเม็งโก้ เหนือกว่าคู่แข่งร่วมลีกมากขนาดไหน ก็ต้องขอยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าขนาดรองแชมป์อย่าง ซานโตส ยังเก็บคะแนนได้เพียง 74 แต้มเท่านั้น โดยตลอดทั้งฤดูกาลนี้ ฟลาเม็งโก้ แพ้ในลีกเพียงแค่ 4 เกม ทำให้พวกเขาได้แชมป์ลีกสูงสุดเป็นสมัยที่ 6 และเป็นแชมป์รายการนี้หนแรกของทีมนับตั้งแต่ปี 2009 ด้วย


            ทั้งนี้ จุดเด่นของ ฟลาเม็งโก้ ชุดนี้คือเกมรุกที่ดุดัน โดยในลีกพวกเขาสามารถทำประตูได้ถึง 86 ประตู มากเป็นอันดับ 1 ของลีก แม้กระทั่ง เกรมิโอ ทีมที่ยิงได้เยอะที่สุดเป็นอันดับ 2 ในลีกประจำฤดูกาลนี้ ยังยิงได้เพียง 64 ลูกเท่านั้น แถมตลอดทั้งซีซั่นนี้ก็มีเพียง 3 นัดที่ ฟลาเม็งโก้ ทำประตูในลีกไม่ได้


ที่นี่เองที่แข้งวัย 23 ปีเหมือนได้ตายแล้วเกิดใหม่ เพราะเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดจนทำได้ 25 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์ในลีก รวมถึงอีก 9 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ใน โกปา ลิเบอร์ตาดอเรส ทำให้เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทั้ง 2 รายการนั้น โดยในนัดชิงดำของ โกปา ลิเบอร์ตาดอเรส ที่ ฟลาเม็งโก้ เฉือน ริเวอร์ เพลท 2-1 เขาก็เป็นคนที่เหมาทั้ง 2 ประตู แถมยังมาทำประตูได้ในนาทีที่ 89 กับในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 ด้วย


           นอกจาก บาร์โบซ่า แล้วนั้น บรูโน่ เอ็นรีเก้ ปินโต้ กองหน้าวัย 28 ปี ก็เป็นอีกคนที่ทำผลงานได้น่าประทับใจ เพราะในฤดูกาล 2019 เขาทำประตูในลีกได้ 21 ลูก จนเป็นรองดาวซัลโวสูงสุด ส่วนใน โกปา ลิเบอร์ตาดอเรส เขาก็ทำไป 5 ลูก


ขณะเดียวกัน จอร์เจียน เด อาร์ราสเชต้า กองกลางชาวอุรุกวัย ก็ถือเป็นจอมปั้นที่อันตรายสุดๆ เพราะในลีกสูงสุดของบราซิลซีซั่น 2019 เขาสามารถทำแอสซิสต์ได้ถึง 14 ครั้ง จนกลายเป็นคนที่ทำแอสซิสต์ได้เยอะที่สุดของลีก แถมเจ้าตัวยังทำประตูได้เอง 13 หนด้วย

- กุนซือ
           ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา โชเซ่ มูรินโญ่ คือกุนซือชาวโปรตุกีสที่แฟนบอลทั่วโลกรู้จักและให้ความสนใจมากที่สุด แต่ที่จริงแล้วในโปรตุเกสมันก็มีกุนซืออีก 1 คนที่สร้างปรากฏการณ์ขึ้นมาจนเป็นที่พูดถึงภายในประเทศอย่างมากเหมือนกัน นั่นก็คือ ฮอร์เก้ เชซุส เทรนเนอร์คนปัจจุบันของ ฟลาเม็งโก้ นั่นเอง


           หลังจากพา บราก้า ทีมที่ไม่ได้โด่งดังอะไรคว้าแชมป์ อินเตอร์ โตโต้ คัพ ในปี 2008 ไปครองได้แล้วนั้น เชซุส ก็เข้าไปคุม เบนฟิก้า ในปี 2009 และเขาก็ประสบความสำเร็จกับทีมอย่างมาก ด้วยการได้แชมป์กับทีมรวม 10 รายการ ตลอดช่วงที่อยู่ในตำแหน่งระหว่างปี 2009 จนถึงปี 2015 แบ่งเป็นแชมป์ลีก 3 สมัย, แชมป์ ทาก้า เด โปรตุกัล (เทียบเท่า เอฟเอ คัพ ของ อังกฤษ) 1 สมัย, แชมป์ ทาก้า ดา ลีกา หรือ โปรตุกีส ลีก คัพ 5 หน และแชมป์ ซูเปอร์ทาก้า กันดิโด้ เด โอลิเวยร่า (เทียบเท่ากับ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ของ อังกฤษ) 1 หน แถมเขายังพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ได้ถึง 2 ซีซั่นติดต่อกัน ประกอบด้วยฤดูกาล 2012-13 และ 2013-14 น่าเศร้าที่ เบนฟิก้า แพ้ เชลซี กับ เซบีย่า ตามลำดับ


             ภายหลังแยกทางกับ เบนฟิก้า เชซุส ก็ยังทำผลงานได้โดดเด่น เพราะเขาพา สปอร์ติ้ง ลิสบอน


อีกหนึ่งทีมของ โปรตุเกส คว้าแชมป์ ซูเปอร์ทาก้า กันดิโด้ เด โอลิเวยร่า กับ ทาก้า ดา ลีกา ไปเชยชมได้อย่างละ 1 สมัย รวมถึงเคยได้แชมป์ ซาอุดิ ซูเปอร์ คัพ กับ อัล-ฮิลัล 1 หนด้วย ก่อนที่จะมาคุม ฟลาเม็งโก้ เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเขาก็ใช้เวลาเพียงแค่ราวครึ่งปีในการพาทีมคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆ มาครองได้ถึง 2 รายการ

 

trigsol.com