[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
ลำไส้ส่วนปลายอักเสบ คืออะไร เกิดจากอะไร  VIEW : 156    
โดย หยาด

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 576
ตอบแล้ว : 2
เพศ :
ระดับ : 19
Exp : 49%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 125.25.205.xxx

 
เมื่อ : ศุกร์ ที่ 27 เดือน มกราคม พ.ศ.2566 เวลา 14:12:14   

โรค “ลำไส้ส่วนปลายอักเสบ” เป็นโรคในระบบทางเดินอาหารที่เกิดการอักเสบบริเวณเยื่อบุผิวลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง ทำให้ผู้ป่วยปวดท้องและมีอาการต่าง ๆ ที่สร้างความทรมาน อาหารการกิน และพฤติกรรมในการใช้ชีวิตเป็นสาเหตุสำคัญของโรค สามารถรักษาให้หายได้ และลดความเสี่ยงได้เพียงการปรับอาหาร

โรคลำไส้ส่วนปลายอักเสบ คืออะไร ?
โรคลำไส้ส่วนปลายอักเสบ คือ ภาวะที่มีสาเหตุจากการอักเสบของเยื่อบุผนังลำไส้ ซึ่งส่วนมากเกิดจากเชื้อโรค หรือสารพิษที่ปนเปื้อนในอาหาร ทำให้มีอาการปวดท้องอย่างเฉียบพลัน

สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในส่วนลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

อาการลำไส้อักเสบฉับพลัน เกิดจากการติดเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียที่มาจากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคปะปน เช่น เชื้ออีโคไล โนโวไวรัส ซาลโมเนลลา ชิเกลลา ฯลฯ รวมถึงสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจพบได้ เช่น ได้รับสารพิษเข้าไปในร่างกายผ่านระบบทางเดินอาหาร เช่น กินเห็ดพิษเข้าไป ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด แพ้สารอาหารบางอย่าง เช่น น้ำตาลแลคโตส กลูเต็น เป็นต้น

โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคแน่ชัด แต่จากข้อมูลของ ผศ.นพ.จุลจักร ลิ่มศรีวิไล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ให้ข้อมูลว่า เกิดจากภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยทำงานมากผิดปกติ และคิดว่าลำไส้ของตัวเองเป็นสิ่งแปลกปลอมจึงทำให้เกิดการอักเสบขึ้น คล้ายกับ “โรคพุ่มพวง” ต่างกันที่โรคพุ่มพวงทำให้เกิดการอักเสบได้ทุกส่วนในร่างกาย แต่โรคลำไส้อักเสบเรื้อรังจะเกิดการอักเสบที่ระบบทางเดินอาหารเป็นหลัก แบ่งออกเป็น 2 โรคใหญ่ ๆ คือ

1. Crohn’s disease
เป็นโรคลำไส้อักเสบที่เกิดในระบบทางเดินอาหารส่วนใดก็ได้ตั้งแต่ปากถึงทวารหนัก แต่โดยมากมักเกิดที่ลำไส้เล็กส่วนปลายและลำไส้ใหญ่ส่วนต้น

สามารถเกิดขึ้นได้ 3 ลักษณะ คือ
ผนังลำไส้อักเสบบวมคล้ายฝี มีลักษณะตะปุ่มตะป่ำจนช่องภายในลำไส้แคบลง และอาจกลายเป็นลำไส้อุดตันได้
ผนังลำไส้อักเสบเป็นแผลลึกจนทะลุไปอวัยวะอื่นที่อยู่ติดกัน
การอักเสบกระจายทั่วไปในลำไส้

2. Ulcerative colitis
เป็นโรคลำไส้อักเสบที่เกิดในลำไส้ใหญ่เท่านั้น

ลักษณะของโรค จะเกิดขึ้นเฉพาะที่ผนังลำไส้เท่านั้น และผู้ป่วยมักมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น ข้ออักเสบ ตาอักเสบ ตับอักเสบ เป็นต้น

 

อาการของโรคลำไส้ส่วนปลายอักเสบ
หากเป็นโรคลำไส้อักเสบฉับพลัน จะมีอาการดังนี้

ถ่ายเหลวเป็นน้ำ ไม่มีเลือดปน
ปวดมวนท้อง
คลื่นไส้ อาเจียน
มีไข้ต่ำ ๆ
ปวดศีรษะ
ปวดกล้ามเนื้อ หรือตึงที่ข้อ
อ่อนเพลียจากการถ่ายเป็นน้ำ
อาจเสี่ยงภาวะขาดน้ำได้

อาการทั้งหมด เกิดขึ้นฉับพลันภายในไม่กี่ชั่วโมง

อาการของโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง
ท้องร่วง มักมีเลือดปนด้วย
ท้องเสียนานติดต่อกันหลายวัน หรือเป็นสัปดาห์
ปวดบีบที่ท้อง
มีไข้
อ่อนเพลีย
น้ำหนักลด

ความแตกต่างระหว่างลำไส้อักเสบเฉียบพลัน และลำไส้อักเสบเรื้อรัง
ลำไส้อักเสบเฉียบพลัน – มักมีอาการอย่างเฉียบพลัน หลังจากที่รับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนภายในไม่กี่ชั่วโมง ถ่ายเหลวเป็นน้ำโดยไม่มีเลือดปน
ลำไส้อักเสบเรื้อรัง – มักมีอาการท้องเสีย ถ่ายเป็นน้ำ อาจมีเลือดปน และมีอาการท้องเสียติดต่อกันหลายวัน จนอาจเป็นถึงสัปดาห์ สาเหตุไม่สามารถระบุได้แน่ชัด อาจเป็นเพราะระบบคุ้มกันตัวเองทำงานผิดปกติ

พฤติกรรมการกิน ช่วยลดเสี่ยงโรคลำไส้อักเสบได้
หากอยากลดความเสี่ยงโรคลำไส้อักเสบ สามารถปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารได้ ดังนี้
เลือกรับประทานที่ปรุงสุกจากวัตถุดิบที่สด ใหม่ สะอาด
เลือกดื่มน้ำ และเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่สะอาด รวมถึงหลีกเลี่ยงน้ำแข็งที่ไม่แน่ใจในความสะอาด
ทำความสะอาดห้องครัว และอุปกรณ์ทำความอาหารทุกอย่างให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงแยกเขียงเนื้อสัตว์สด ผักดิบ และอาหารที่ปรุงสุกแล้วออกจากกันล้างมือให้สะอาดทุกครั้งที่จะใช้มือสัมผัส
หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ทุกชนิด
อาหารที่ควรกิน-ควรหลีกเลี่ยง เมื่อมีอาการของโรคลำไส้อักเสบ

อาหารที่ควรกิน
อาหารรสชาติอ่อน
อาหารที่มีโพรไบโอติกส์ เพื่อช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร เช่น โยเกิร์ต (สูตรน้ำตาลน้อย หรือไม่มีน้ำตาล) เช่น โยเกิร์ต
เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และย่อยง่าย เช่น ไก่ (ไม่มีหนัง) เนื้อปลา รวมถึงไข่ ซึ่งเป็นโปรตีนที่ดี
น้ำดื่มสะอาด
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อลดความเสี่ยงการขาดสารอาหาร

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
ผักดิบ เนื้อสัตว์ดิบ เพราะทำให้ย่อยยาก ลำไส้ทำงานหนัก
เครื่องดื่มที่คาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
น้ำอัดลม โซดา เพราะเป็นการเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหาร
อาหารที่มีส่วนประกอบของกำมะถัน เช่น เนื้อแดง ชีส ขนมปัง นม อัลมอนด์ ลูกเกด ลูกพรุน ผักตระกูลกะหล่ำ เป็นต้น

https://mydeedees.com/%e0%b8%a5%e0%b8%b3%e0%b9%84%e0%b8%aa%e0%b9%89%e0%b8%aa%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%9a-%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad/