มีใครเคยเป็น “ฝี” กันบ้างไหมเอ่ย ? ใครที่ยกมืออาจจะเข้าใจประสบการณ์การความทรมานที่เคยเป็นฝีได้ดี ตุ่ม ๆ กดแล้วเจ็บ เหมือนสิวแต่ไม่ใช่สิว และที่สำคัญ หากมีหนองขึ้นมายิ่งเจ็บ ยิ่งหายยาก หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นสิวขนาดใหญ่ และลงมือบีบหนองเอง แต่อันที่จริงแล้วหากเป็นฝี ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธีจะดีที่สุด เพราะการรักษาเองโดยไม่ถูกวิธี เสี่ยงอักเสบ เป็นแผลใหญ่ และอาการหนักรักษายากกว่าเดิม
ทำไมเราถึงเป็น “ฝี” ?
ฝี เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เมื่อร่างกายสกปรก อ่อนแอ และมีภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้ร่างกายติดเชื้อแบคทีเรียง่าย นอกจากนี้ผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็เสี่ยงเป็นฝีได้มากกว่าคนปกติ โดยฝีมักเกิดขึ้นบริเวณที่เกิดแบคทีเรียได้ง่าย เช่น บริเวณที่เป็นจุดอับชื้นต่าง ๆ
>> ฝี กับ สิว ต่างกันอย่างไร? มีวิธีรักษาฝีอย่างไร?
รักษา “ฝี” อย่างไร ถึงจะปลอดภัย ?
ตามปกติแล้วฝีสามารถแตกตัวได้เอง อาการก็จะทุเลาลง หากใครที่มีฝีอยู่ ควรดูแลให้ถูกวิธี ดังนี้
ประคบฝีด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น ครั้งละ 10-15 นาที วันละ 2-3 ครั้ง การประคบฝีด้วยน้ำอุ่น จะทำให้เส้นเลือดบริเวณที่เกิดฝีไหลเวียนได้ดีขึ้น ฝีจะแตกเองได้ง่ายขึ้น
หมั่นล้างมือของตัวเองให้สะอาด หากนำมือของตัวเองที่ไม่สะอาดไปสัมผัสกับฝี อาจทำให้ฝีติดเชื้อได้ง่ายมากกว่าเดิม และอาจยังเป็นการแพร่เชื้อแบคทีเรียไปยังผู้อื่นได้อีกด้วย
อย่าบีบ เค้น หรือเจาะฝีที่ยังไม่สุก (ไม่มีหัวหนอง) เพราะเชื้อโรคอาจลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียงได้
ฝีควรจะมีอาการที่ดีขึ้นใน 2 สัปดาห์ หากยังไม่ดีขึ้น มีขนาดใหญ่ผิดปกติ หรือเผลอบีบฝีไปเองแล้ว ควรพบแพทย์เพื่อทำความสะอาด และทำการรักษาฝีให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และการเป็นซ้ำซาก
เว็บ
แทงบอลออนไลน์
ที่ดีที่สุด ให้บริการ 24 ชั่วโมง
รับแทงไม่อั้น แทงบอล ขั้นต่ำ 10 บาท
|