#SSxKMD | ในวัยเบญจเพส มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำประตูที่ 100 ในยูนิฟอร์มแมนฯยูไนเต็ด รั้งดาวซัลโวตลอดกาลอันดับ 20 (ร่วม) ของสโมสร แต่ท่ามกลางเสียงชื่นชม นักเตะดีกรีด็อกเตอร์ได้ทวิตให้แฟนบอลชื่นชมแอสซิสต์ของคริสเตียน เอริกเซน ด้วย
จังหวะนั้น เอริคเซนใช้อกพักบอลก่อนปล่อยให้ลงพื้นกระเด้งขึ้นมาเล็กน้อย แล้วเตะช้อนจากใต้ลูกบวกสปินให้บอลวิ่งแหวกอากาศผ่านผู้เล่นเวสต์แฮมและตีโค้งหน้าประตู ย้อนขึ้นมาให้แรชฟอร์ดโหม่งชาร์จเต็มแรง ลูกเข้าประตูที่เสาไกลในนาทีที่ 38 นับเป็นการครอสไซด์โค้งด้วยดร็อปบอลที่สวยงามมาก
ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ไรอัน โอแฮนลอน ผู้สื่อข่าวของอีเอสพีเอ็น เพิ่งเขียนบทความเรื่อง “ลูกครอสในพรีเมียร์ลีกคือศิลปะที่กำลังใกล้ตาย”
ลูกครอสเป็นการผ่านบอลระยะกลางถึงไกลเพื่อสร้างโอกาสทำสกอร์ของผู้เล่นด้านข้างสนามอย่างปีก วิงแบ็ค และฟูลแบ็ค เป็นแท็คติกที่แฟนบอลอังกฤษรุ่นเก่าคุ้นเคยดีเมื่อ 3-4 ทศวรรษที่แล้ว ซึ่งปีกลากบอลริมเส้นเกือบสุดเส้นหลังแล้วโยนเข้ามาในเขตโทษให้ศูนย์หน้าร่างใหญ่เข้าชาร์จ
ในหัวข้อย่อย The death of crossing โอแฮนลอนพาคนอ่านย้อนไปพรีเมียร์ลีกซีซัน 2008-09 ช่วงแรกๆที่บริษัท Stats Perform เพิ่งจัดการเรื่องสถิติ ค่าเฉลี่ยลูกครอสจากโอเพนเพลย์ของทีมพรีเมียร์ลีกอยู่ที่ 17.5 ครั้งต่อนัด หรือนัดหนึ่งจะเห็นการโยนบอลราว 35 ครั้ง ขณะที่การผ่านบอล (pass) ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ final-third เป็นลูกครอส 21.9% แปลว่าการผ่านหรือจ่ายบอลในโซนสุดท้ายห้าครั้งเป็นลูกครอสเสียหนึ่ง
นั่งไทม์แมชีนกลับมาซีซัน 2022-23 หรือ 14 ปีต่อมา ค่าเฉลี่ยการครอสจากโอเพนเพลย์ลดเหลือ 11.9 ครั้ง ส่วนลูกครอสในโซนสีแดงมีเพียง 14.7% ของการผ่านบอลทั้งหมด ตัวเลขทั้งสองเป็นค่าต่ำที่สุดนับจากซีซั่น 2008-09 ซึ่งตอนนั้น เจมส์ มิลเนอร์ นักเตะสารพัดประโยชน์วัย 36 ของลิเวอร์พูล เพิ่งย้ายจากนิวคาสเซิลมาอยู่แอสตัน วิลลา เขาครอสเฉลี่ยนัดละ 6.65 ครั้ง มากกว่าใครในพรีเมียร์ลีก (นับเฉพาะคนที่เล่นให้ทีมเกินครึ่งหนึ่งของเวลารวมทั้งหมด) แต่ซีซั่นนี้ ตัวเลขเฉลี่ยของเขาเหลือ 3.34 ครั้ง (เพิ่งต้นซีซัน)
ซีซัน 2008-09 โบลตันนำลีกในเปอร์เซ็นต์ครอสบนโซน final-third ที่ 33% ส่วนซีซันนี้น่าสนใจทีเดียวเพราะทีมอันดับ 1 คือเวสต์แฮมของ เดวิด มอยส์ ซึ่งเมื่อ 14 ปีที่แล้วคุมทีมเอฟเวอร์ตัน และเป็นกุนซือคนเดียวจากยุคนั้นที่ยังทำงานในพรีเมียร์ลีกขณะนี้ แต่ค่าครอสของทีมขุนค้อนก็แค่ 19.9% หรืออันดับ 15 ในซีซัน 2008-09
อาร์แซน เวนเกอร์ เคยสร้างความยิ่งใหญ่ให้อาร์เซนอลด้วยการต่อบอลเร็วจ่ายสั้น แต่ค่าครอสในโซนแดงยังเท่ากับ 16.6% มากกว่าทีมพรีเมียร์ลีกปัจจุบันถึง 10 ทีม รวมทั้งอาร์เซนอล 10% และแมนฯยูไนเต็ดของเอริค เทน ฮาก 9.5% ซึ่งรั้งอันดับท้ายๆของสถิติหมวดนี้ หรือถ้าดูเส้นกราฟที่ลากจากซีซัน 2008-09 ถึง 2022-23 จะมีแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน
ในเดือนธันวาคม 2020 ตอนที่อาชีพผู้จัดการทีมอาร์เซนอลของมิเกล อาร์เตตา ยังลุ่มๆดอนๆ เขากล่าวหลังจบเกมแพ้วูลฟ์ส 1-2 ซึ่งลูกทีมครอสบอลถึง 33 ครั้งว่า ถ้ายังทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ อาร์เซนอลจะทำประตูได้มากขึ้น หรือถ้าคิดแบบคณิตศาสตร์ การทำประตูต้องเกิดขึ้นแน่นอน
แต่ซาราห์ รุดด์ รองประธานฝ่ายซอฟต์แวร์และการวิเคราะห์ของอาร์เซนอล เคยให้สัมภาษณ์ลงหนังสือ Net Gains: Inside the Beautiful Game's Analytics Revolution ของโอแฮนลอนว่า ครั้งหนึ่งโค้ชเคยสอนให้ฟูลแบ็ควิ่งเข้าบล็อกการครอสของคู่แข่งทุกจังหวะทุกสถานการณ์ แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว โค้ชจะบอกลูกทีมว่าปล่อยให้คู่แข่งครอสตามสบาย
จากการศึกษาพรีเมียร์ลีกและบุนเดสลีกาในปี 2014 พบว่า จำนวนครอสกับสกอร์มีค่าผกผันกันอย่างมาก อีกนัยหนึ่ง ยิ่งโยนบอลมากเท่าไร โอกาสได้ประตูก็น้อยลงเท่านั้น และจากผลวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ ลูกครอสมีโอกาสนำไปสู่ประตูเพียง 1% ถึง 3% ขณะที่สถิติพรีเมียร์ลีกซีซันที่แล้วระบุว่า การยิงจากนอกกรอบเขตโทษมีโอกาสเป็นประตู 5.1% ซึ่งค่านี้ไม่รวมถึงการเข้าซ้ำหรือการยิงที่เกิดขึ้นหลังการซัดนอกเขตโทษ คือต่อให้นักเตะยิงแย่ๆยังมีลุ้นประตูมากกว่าการครอส
คอลัมนิสต์ของอีเอสพีเอ็นให้ความเห็นตอนท้ายว่า ไม่ใช่ครอสเป็นเรื่องแย่ไปเสียหมดเพราะแฟนบอลยังได้เห็นการโยนบอลสุดคลาสสิกจาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และเควิน เดอ บรอยน์ เพียงแต่แท็คติกปัจจุบันลดการครอสแย่ๆจากริมสนามที่ต้องต่อสู้กับเกมรับที่ถูกเซตรูปแบบมาอย่างดี แล้วหันไปโฟกัสการคัทแบ็คและครอสต่ำๆใกล้เส้นหลังประตูหรือแบ็คไลน์ ขณะที่ปีกสมัยใหม่มักถูกให้ยืนคนละฝั่งกับเท้าข้างถนัดเพื่อตัดเข้าในแล้วจ่ายหรือยิงมากกว่า
โอแฮนลอนทิ้งท้ายด้วยคำพูดของรุดด์ว่า “ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีนวัตกรรมหรือแท็คติกใหม่ๆเกิดขึ้นเสมอ รวมถึงการปฏิรูปที่ขับเคลื่อนโดยสตาฟฟ์โค้ช ดังนั้นทุกอย่างจึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจริงๆ”
การดูหรือเชียร์บอลผ่านสายตาแท็คติกของโค้ชช่วยเพิ่มความสนุกสนามให้กับกีฬาลูกหนังที่มองได้ว่าเป็นศิลปะอีกรูปแบบหนึ่ง
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Betufa
|