"งานใหญ่ในปีหน้าสำหรับวงการ กีฬาไทย เห็นจะหนีไม่พ้นการเป็น เจ้าภาพจัดการแข่งขันศึก ฟุตซอลโลก 2012 ในระหว่างวันที่ 2-18 พ.ย.
ดีกรีเทียบเท่าฟุตบอลโลก เวิลด์ คัพ ขนาดนี้ คงต้องมีการเตรียมงานที่ครอบคลุมทุกด้าน
ความพร้อมมีมากน้อยแค่ไหน ชาติเจ้าภาพทำได้ดีเพียงใด สำหรับรายการนี้ไม่ใช่รู้กันแค่ในระดับ ภูมิภาค แต่รู้กันไปทั่วโลก
เรื่องนี้เป็นดาบสองคม ทำดีก็ได้รับคำสรรเสริญเยินยอ ต่อยอดไปสู่การเป็นอินเตอร์ ได้โข แต่ถ้าทำห่วย ก็อับอายขายขี้หน้า (อย่างยิ่ง)
เมื่อวันก่อน สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน เรียกประชุมถกเครียดเตรียมพร้อมเต็มที่ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมกัน เห็นแล้วก็น่าชื่นใจ
ถัดจากนี้อีกไม่กี่วัน 4-8 เม.ย.นี้ ตัวแทนจากสหพันธ์ ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า จะเดินทางมาสำรวจความพร้อม ก่อนจะสรุปว่าผ่านหรือไม่
เกณฑ์ในการสำรวจ ฟีฟ่า จะตรวจดูความพร้อมในส่วนต่างๆ อาทิ การประชาสัมพันธ์ และสภาพของสนามที่ใช้แข่งขัน รวมทั้งบุคลากรเจ้าหน้าที่
ในส่วนของสนามจัดการแข่งขัน ซึ่งนอกเหนือจากกรุงเทพมหานคร ที่หนองจอกแล้ว ยังมีอีก 5 เมืองเสนอตัว ประกอบด้วย เชียงใหม่, สงขลา, ภูเก็ต, นครราชสีมา และสุพรรณบุรี
ก็ไม่รู้ว่าพัทยา จ.ชลบุรี ตกสำรวจไปได้อย่างไร ทั้งๆที่มีความพร้อมในทุกๆด้าน ไม่ว่าสนามแข่งขัน สาธารณูปโภคต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของที่พักจะเอา 5 ดาว 6 ดาว มีให้พร้อมสรรพ
มองย้อนกลับไปดูจำนวน 6 เมืองที่เสนอตัว แน่นอนว่า กทม. ย่อมต้องเป็นเมืองหลัก เพราะมีทุกอย่างเพียบพร้อม แต่ข้อเสียก็คือสเตเดียม มูลค่า 1.2 พันล้าน ความจุ 1.2 หมื่นที่นั่ง ที่หนองจอก มันออกจะอยู่ไกลไปซักหน่อย
ส่วนอีก 5 เมืองก็ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย มองกันตามสายตาต้องยอมรับความจริงว่า สุพรรณบุรี ดูด้อยกว่าเมืองอื่น ด้วยความเป็นเมืองขนาดกลาง ไม่ใช่ เมืองท่องเที่ยวหลัก
เฉพาะเรื่องของสนามแข่งขันก็เป็นปัญหาแล้ว แถมนี่ยังต้องมามองหาเรื่องของที่พักที่จะมีดีพอหรือไม่อีก เห็นแล้วปวดหัวแทน
ก็ไม่รู้ว่าคณะทำงานเห็นว่ามีความพร้อมจึงเสนอตัว หรือจริงๆแล้วแค่คนคนนึงอยากจัด และจะดันทุรังเอาให้ได้
ซึ่งถ้าเกิดได้จัดขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ใต้ดินหรือบนดิน
สุดท้ายแล้วอยากจะขอให้นึกถึงหน้าตาของประเทศไทยเอาไว้เป็นหลักครับ."
ดูบอลสด
ดูบอล
ต้องที่ zonedooball.com
|