[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
โรคหัวใจครองแชมป์ตายอันดับ 1 ทั่วโลก ไทยสูญเสียโดยเฉลี่ยชั่วโมงละ 2 คน  VIEW : 2426    
โดย 009

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 20
ตอบแล้ว : 2
เพศ :
ระดับ : 3
Exp : 82%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 178.128.126.xxx

 
เมื่อ : อังคาร ที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2562 เวลา 21:17:27   

แพทย์ มธ. เผยวิทยาการอัลกอริธึ่ม (Algorithm) ใหม่ ใช้คู่ไฮ เซนซิทิฟ คาร์ดิแอค โทรโพนิน ที (High sensitivity cardiac troponin T) วินิจฉัยไว เร่งรักษา ลดอัตราการเสียชีวิต ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน นับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้คนทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เฉพาะใน

ประเทศไทยในปี ในปี 2559 พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ 19,030 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 29.09 ต่อประชากรแสนคน ส่วนผู้ป่วยโรคหัวใจรายใหม่อยู่ที่ 98,148 ราย มีอุบัติการณ์อยู่ที่ 150.1 ต่อประชากรแสนคน และมีอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขทางสถิติจากกระทรวงสาธารณสุข (16 กันยายน

2561) พบว่า มีจำนวนคนไทยที่ป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด 432,943 คน มีอัตราการเสียชีวิตถึง 20,855 คนต่อปี หรือชั่วโมงละ 2 คน และด้วยจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่มีจำนวนมาก ก่อให้เกิดปัญหาสถานการณ์ความแออัดของห้องฉุกเฉิน ซึ่งเป็นปัญหาด้านสาธารณสุข จากสถิติปี 2559 พบว่า ในประเทศไทยมีสถิติผู้ป่วยที่เข้ารับ

บริการการรักษาในห้องฉุกเฉินอยู่ที่ 458 :100,000 ประชากร ซึ่งสูงกว่าสหรัฐอเมริกา (421:100,000 ประชากร) ออสเตรเลีย (331: 100,000 ประชากร) และอังกฤษ (412 : 100,000 ประชากร) ทั้งนี้ ในประเทศไทยมีผู้ป่วยเข้ารับบริการในห้องฉุกเฉินเป็นจำนวนมากถึง 35 ล้านครั้งต่อปี และพบว่าเกือบร้อยละ 60 เป็นผู้ป่วยไม่ฉุกเฉิน (ข้อมูลจาก

คู่มือแนวทางการจัดบริการห้องฉุกเฉินที่เหมาะสมกับระดับศักยภาพสถานพยาบาล กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2562) การพบผู้ป่วยที่ไม่ฉุกเฉินที่เข้ารับบริการในห้องฉุกเฉินเป็นจำนวนมาก ไม่ส่งผลดีต่อการปฏิบัติงานของบุคลากรในห้องฉุกเฉินเพื่อให้การรักษาและดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนมากกว่า ดังนั้น

เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน การพิจารณาคัดแยก (Triage) ว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉินเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินที่แท้จริงหรือไม่ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด





โดย 002
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 20
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 178.128.209.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 8 ต.ค. 2562 : 19:38

ฉบับเกาหลีนั้น ส่วนที่ดีมากๆ ดีสุดๆ คือเนื้อเรื่องกับบทที่ไหลลื่นมากๆ ฉากต่อฉาก บทต่อบท ฉากโรแมนติคทำได้ดีมากๆ มันอบอุ่นหัวใจ แถมยังแทรกมุกตลกได้พอดิบพอดี เราทั้งอมยิ้ม หัวเราะตลอดเวลา ตัวหนังเราเหมือนทานข้าว ที่มันพอดีคำ กินอร่อย กลมกล่อม ชอบมากๆครับ ด้านภาพของหนัง ภาพสวยมาก สีสบายตัว ดู

อบอุ่น แค่ฉากเปิดที่เป็นอนิเมชั่น ก็สวยมากๆแล้ว ทางด้านนักแสดง Son Ye-jin นางเอกของเรื่อง น่ารักมากเล่นดีมาก ก่อนหน้าจะดูหนังเรื่องนี้ ได้ดูซีรี่ย์ Something in the rain ที่ Son Ye-jin เล่นพอดี ยิ่งมาดูเธอแสดงหนังอีก ยิ่งชอบมาก เล่นดีมาก ส่วนพระเอกที่แสดงโดย So Ji-sub ตอนดูตัวอย่างหนังแอบไม่ชอบนะ แต่พอ

มาดูจริงๆ พี่แกแบกหนังทั้งเรื่องได้อยู่หมัดเลย (พี่แกบทเยอะสุดๆ) เล่นดีมาก จนแบบว่าเราพูดในใจตัวเอง เออแสดงเก่งจัง แต่เมื่อเทียบกับต้นฉบับ ไม่รู้ทำไมฉบับเกาหลีมันไม่ร้องไห้ เศร้านะแต่มันไม่พีคเท่าของญี่ปุ่น (คือญี่ปุ่นดูซ้ำก็ยังร้อง) แต่ถ้าด้านโรแมนติค ความอบอุ่น เกาหลีทำได้ดีกว่ามาก อยากให้ทุกคนได้ชม ไปดูเถอะ

ไม่เสียดายเงินแน่นอนครับ ถ้าคุณดูจบ แล้วคุณจะรักฤดูฝนอย่างแน่นอน หนังรักโรแมนติกที่มีต้นฉบับมาจากประเทศญี่ปุ่น มาในคราวนี้ทางเกาหลีได้หยิบนำมารีเมคใหม่ แถมยังได้สองนักแสดงนำชั้นแนวหน้าของเกาหลีมาแสดงอีกต่างหาก “โซ จีซบ” รับบทเป็น วูจิน และ “ซอน เยจิน” รับบทเป็น ซูอา โดยในฉบับญี่ปุ่นได้บีบน้ำตา

คนดูมาแล้วทั่วโลก โดยเป็นเรื่องราวของ วูจิน ชายผู้สูญเสียภรรยาผู้เป็นที่รักของเขา ซูอา แต่เธอได้สัญญาไว้ว่า เธอจะกลับมาในช่วงฤดูฝน และปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริง แต่ปัญหาคือ ซูอา ไม่เหลือความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับชีวิตเลยแม้แต่น้อย ตัวผมเองยังไม่เคยได้ดู Be With You ในฉบับญี่ปุ่นเลย จึงไม่สามารถบอกได้ว่ามันดีกว่า

ไหม หรือมันแย่กว่ายังไง แต่หลังจากที่ผมดูฉบับเกาหลีจบแล้ว ผมบอกได้แต่เพียงว่า “ต้องไปดูฉบับญี่ปุ่นให้ได้เลย”

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด



      
โดย 002
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 20
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 178.128.209.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 16 ต.ค. 2562 : 18:38

เพื่อฝ่าอันตรายทำภารกิจเดือดแห่งสงครามยาเสพติดครั้งใหญ่ หนังภาคต่อจาก Sicario ที่กลับมาพร้อมกับความดิบ เถื่อน และฉากกลยุทธ์ที่มีความถูกต้องอยู่สูง ทำให้หนังมีความไหลลื่น น่าสนใจ แม้จะมีการผลัดเปลี่ยนผู้กำกับ แต่ก็สานต่อกลิ่นอายของภาคต่อได้พอสมควร แม้จะขาดลูกกดดันที่ทำให้หายใจอึดอัด แต่

กระบวนการลุ้นระทึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในทุกวินาทีหลังจากออกจากฐานครั้งที่ 2 ก็ทำให้หนังสมบูรณ์ในแบบของมัน จริงๆ เพราะมันถูกสร้างเพื่อให้ไปพีคภาค 3 ทำให้ภาคนี้ไม่ได้รวบจบสมบูรณ์แบบภาคหนึ่ง และขาดกลิ่นอายที่เข้าไปสำรวจความรู้สึกแบบต่างโลกอย่างที่ภาค 1 ทำกับเคท ที่เหมือนได้เข้าไปในความมืดมิดของ

โลกมนุษย์ในเม็กซิโก “โลกที่ฆาตกรต้องอำพรางศพหนีกฏหมาย กับโลกที่แขวนศพเอาไว้เตือนไม่ให้ทรยศ เป็นโลกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง” ภาคนี้เปิดฉากมาเป็นหนังสงครามเบื้องหลังเต็มรูปแบบ ในเมื่อไม่มีอะไรให้ปิดเหมือนภาคหนึ่ง ก็เลยจัดเต็มตามกระบวนกลยุทธ์สงครามสไตล์หลังฉาก เป็นหนังสงครามกลางเมืองขนาด

เล็กของอเมริกา ด้วยหน่วยงานลับเฉพาะที่จัดการตามประสงค์ของรัฐบาลแบบไหนก็ได้ แต่คราวนี้ผลกลับไม่ได้เป็นดั่งใจ และทำให้ความวุ่นวายแปลเปลี่ยนการสังหาร ทั้งนี้หนังเองก็ไม่ทิ้งการเข้าถึงคนเม็กซิโก ถ้าภาคเก่าคือเรื่องราวของตำรวจทรยศ ภาคนี้ก็คือเรื่องราวของผู้คนที่อาศัยอยู่ระหว่างเขตเท็กซัสและเม็กซิโก เป็น

เรื่องราวของคนหนุ่มที่กลายเป็นมือปืน ที่เชื่อมโยงกับเรื่องด้วยการแอบข้ามเขตแดน แต่ผู้กำกับคนนี้ยังทำไม่ถึงภาคเก่าน่ะนะ เดนนิสผู้กำกับภาคแรกได้วางเพลง วางองค์ประกอบเอาไว้ได้อย่างทรงพลัง แถมบทเองก็พา

เข้าไปสู่โลกแห่งความมืด ความดิบ ความเถื่อนได้อย่างงดงาม จึงต้องร่วมมือกับนายทหารรับจ้าง “อเล็กฮานโดร” (เบเนซิโอ เดล โตโร)ดังนั้นเพื่อการรับมือต่อกร “แมตต์ เกรเวอร์” (จอช โบรลิน) หน่วยกองกำลังเฉพาะกิจของรัฐบาล

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด



      
โดย 002
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 20
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 178.128.209.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 20 ต.ค. 2562 : 10:34

โปสเตอร์ที่ออกมาก็คล้าย ๆ กับหนังอิงประวัติศาสตร์ทั่วไป แถมเนื้อเรื่องกับการเล่าเรื่องที่ไม่ค่อยชวนติดตาม ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไรนัก ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้หลักผู้ใหญ่มากมายในการร่วมสร้างสรรค์ผลงาน แต่ดูเหมือนจะช่วยอะไรได้อย่างไม่เต็มกำลัง นั่นแหละที่ทำให้คอหนังสงสัยอยู่ว่า...มีหนัง

เรื่องนี้ด้วยรึ? สามคือ "นักแสดง" ผู้รับบทเป็นขุนรองปลัดชูและคนรักของเขาก็โนเนม ฉันเองก็จำชื่อไม่ได้ แต่ที่น่าประหลาดใจกว่าก็คือ "ป๋ายัพ" ขนเพื่อนพ้องน้องพี่ของตนมาร่วมแสดงกันอย่างคับคั่งเช่นเดียวกับหนังไทยอีกบางเรื่องที่เป็นแบบนี้มา ไล่ตั้งแต่ ถั่วแระ เชิญยิ้ม ชูษี เชิญยิ้ม เสรี รุ่งสว่าง ต๊อก ศุภกรณ์ เต้ นันทศัย ต่าย

สายธาร ต๊ะ บอยสเก๊าท์ ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย เจจินตัย แม้กระทั่งดารานักพากย์อย่าง วันชัย เผ่าวิบูลย์ ซึ่งล้วนเป็นเหล่าดาราที่คุ้นหน้าในอดีตทั้งนั้น ความสดใหม่แทบไม่มีเลย อารมณ์เหมือนกับดูละครบู๊ช่องเจ็ดยังไงยังงั้น รวมถึง "การยัดเยียด" ที่ออกมาอย่างไม่น่าชื่นชม เน้นย้ำอยู่บ่อย ๆ ทั้งเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม

การรักชาติรักแผ่นดิน แถมยังเล่น "ไสยศาสตร์" มาล่อตาล่อใจให้ระทึก แม้แต่ชื่อเรื่องที่ตั้งขึ้นก็ดูขาด ๆ หาย ๆ ไปบ้าง ใจจริงน่าจะเติมคำว่า "กับ" ลงไปให้เป็นชื่อเรื่องว่า "400 นักรบ กับ ขุนรองปลัดชู" ก็น่าจะลงตัวที่สุดแล้ว เครดิตตอนไตเติ้ลของหนังบนจอก็วางผิดไปบ้าง โดยเฉพาะข้อความว่า "พยัพ คำพันธุ์" ตามด้วย "เรื่อง

โดย" เลยดูไม่สะอาดสะอ้าน สุดท้ายคือ "นักรบ 400 ชีวิต" ที่ว่า...ดู ๆ ไปก็ไม่ถึง 400 อยู่ดี ไม่รู้ว่าทำไมถึงสร้างออกมาแบบนี้ กลัวงบเยอะรึเปล่า? ...ก็ว่างั้นแหละ ผลงานที่ปรากฏก็เลยดูไม่สมกับงบสร้างที่ว่ากันว่ามหาศาลอยู่แล้ว ขาดแม่เหล็กที่ดีจริง ๆ แต่อย่างน้อยก็ถือเป็นความตั้งใจของ "ป๋ายัพ" และทีมงานแล้วกัน เป็นมือใหม่ก็

ธรรมด๊า ธรรมดา...ลองผิดลองถูกเป็นเรื่องธรรมดา ถึงแม้เนื้องานอาจไม่สมบูรณ์ และกระแสที่ไม่แรงเมื่อหนังเข้าฉายแล้วก็ตาม ฉันก็หวังว่า "ป๋ายัพ" อาจจะมีเรื่องอื่น ๆ อยู่ในความคิด

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด



      
โดย 009
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 20
ตอบแล้ว : 2
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 178.128.209.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 27 ต.ค. 2562 : 16:56

เมื่อนายกใจแคบ โคบายาชิ ผู้ปกครองเมืองออกกฎหมายห้ามเลี้ยงสัตว์และขับไล่สุนัขทุกตัวไปอาศัยอยู่ในเกาะรวมรวบขยะหลังจากเกิดการป่วนเมืองครั้งใหญ่ด้วยฝีมือของเหล่าสัตว์สี่ขา ร้อนถึง อาตาริ โคบายาชิ หนุ่มน้อยวัย 12 ปี ที่ต้องเสียสัตว์เลี้ยงสุดรักไปเตรียมก่อกบฏย่อมๆ โดยใช้เครื่องบินคู่ใจ จูเนียร์-เทอร์โบ พร็อบ บิน

ข้ามแม่น้ำไปตามหาสุนัขแสนรักด้วยตัวเอง เล่าเรื่องสนุก มีชั้นเชิง ชอบมุกตลกในแบบของปู่เวสมากๆ มีอะไรให้ surprise อยู่ตลอดเวลา บทหนังเรื่องนี้คือมันเหมาะสมแล้วจริงๆ ที่จะเอามาทำ stop motion คือถ้าเป็นหนัง เราว่าคงไม่สนุกเท่านี้อ่ะ ในส่วนของงานภาพ เป็นหนัง stop motion ที่ทำออกมาได้ดี จังหวะการใส่เพลงเร้า

อารมณ์ การตัดสลับมุมภาพและเหตุการณ์ต่างๆ ทำออกมาได้ประทับใจมากๆ ชอบประเด็นการเมืองที่พูดถึงเรื่องของชนชั้น การแก้ไขปัญหา และการวางอำนาจทางการเมืองต่างๆ เอาจริงๆ เป็นหนังที่เนื้อเรื่องแอบหนังเบาๆ เหมือนกันนะ แต่พอมันถูกเล่าออกมาใน mood and tone แบบนี้ เลยทำให้มันค่อนข้าง soft และดูได้

เพลินๆ สบายๆ ชอบประเด็นหมาคือเพื่อนรักของมนุษย์ และเป็นหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะทั้ง บอดี้การ์ด ครอบครัว หรืออะไรก็ตามแต่ ซึ่งน่าจะเป็นจุดขายสำคัญอีกหนึ่งอย่างของหนังเรื่องนี้ สัญลักษณ์ของแมวคือความเจ้าเลห์ ซึ่งใช้แทนตัวละครฝ่ายร้าย ส่วนหมาคือผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดี ใช้แทนตัวละครฝ่ายดี ซึ่งเอาเข้าจริงๆ มันแอบ

ดูเป็นการอวยไปนิด แต่ก็ยอมรับได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว พอมันเป็นหนัง เราย่อมต้องให้มีฝ่ายหนึ่งเป็นขาว และฝ่ายหนึ่งเป็นดำเสมอ ซึ่งถึงจะบอกว่างั้น ท้ายที่สุดแล้ว ตัวลุงโคบายาชิ หรือลุงของตัวเอกก็เป็นเทาอยู่เหมือนกัน

โดยรวมเป็นหนัง stop motion ที่เนื้อเรื่องสนุก เป็นหนังการเมืองที่ดูได้เพลินๆ เพราะท้ายที่สุดเราก็จะไปโฟกัสเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนและหมาอยู่ดี

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด



      
1