หาก Incredibles เคยพูดถึงประเด็นเรื่องครอบครัวและความเข้าใจกัน Incredibles 2 คือการกลับมาเพื่อตอกย้ำประเด็นเหล่านั้นให้หนักแน่นขึ้นไปอีก อุปสรรคในภาคนี้จึงไม่ใช่แค่การเชื่อใจกันเพียงอย่างเดียว แต่นั่น

รวมไปถึงการเข้าใจซึ่งกันและกัน และการให้ความสำคัญต่อทุกคนในครอบครัว Incredibles 2 คือหนังที่ตั้งคำถามถึงความเชื่อ ความถูกผิด และคุณค่าถึงการมีอยู่ว่าสังคมได้รับผลประโยชน์มากแค่ไหน แท้จริงโลกเราจำเป็นต้องมีจริงๆ หรือไม่ แล้วหากไม่มี เราจะสามารถจัดการปัญหาต่างๆ ได้หรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นอีกประเด็นที่

น่าสนใจ เพราะในปัจจุบันหนัง super-heroes ค่าย marvel ก็ตกมาอยู่ในมือของ Disney ไปแล้ว นั่นจึงคำถามนี้ใช้ได้ถึงหนังในตระกูลเดียวกันเกือบทั้งหมด หนัง Be with You หรือชื่อไทยว่า ปาฏิหาริย์ สัญญารัก ฤดูฝน Be With You ว่าด้วยชีวิตของชายหนุ่มที่สูญเสียภรรยาไป แต่ก่อนจะเสียชีวิต ภรรยาของเขากลับทิ้งคำสัญญา

เอาไว้ว่าเธอจะกลับมาหาเขาอย่างแน่นอน และสุดท้ายปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริง เมื่อเธอได้กลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้งจริงๆ แต่กลับไม่หลงเหลือความทรงจำใดๆ ตอนที่ทั้งสองเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเลย ภาพยนตร์ Be With You ได้ 2 นักแสดงสุดฮอต ซนเยจิน และโซจีซอบ มารับบทนำ โดย Be with you เข้าฉายที่เกาหลีไปเมื่อ 14

มีนาคมที่ผ่านมา และสร้างสถิติใหม่ให้หนังที่เปิดตัวในเดือนมีนาคม โดยขึ้นอันดับ 1 ติดต่อกันถึง 8 วัน สำหรับ Be with You ฉบับญี่ปุ่นถือว่าเป็นหนังในดวงใจของผมเลยทีเดียว ขนาดดูซ้ำหลายรอบ ก็ร้องไห้ทุกรอบ พอรู้ว่าเกาหลีเอามาทำใหม่ ก็อยากดูตั้งแต่รู้ข่าวเลย และในที่สุดก็เข้าฉาย แน่นอนครับผมรีบตีตั๋วเข้าไปดูทันที

หลังดูจบก็ต้องบอกว่า เป็นหนังที่น่ารักมากๆ โรแมนติคสุดๆ แถมยังตลกอีกด้วย แต่ความพีคอาจจะน้อยกว่าต้นฉบับ แต่โดยรวมก็ถือว่าดีมากๆ เลยทีเดียว

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด

ถูกลูกชายนำมาแขวนกลับหัว ด้วยความหวังที่จะให้ฝนตกไปเรื่อยๆทุกวัน จนที่ราวหน้าบ้านมีตุ๊กตาไล่ฝนหัวดิ่งพื้นเรียงรายเป็นตับ เป็นฉากเล่าเรื่องด้วยภาพได้น่าเอ็นดู กินใจยิ่ง แต่มันไม่มีอยู่ในฉบับเกาหลี เพราะต่างวัฒนธรรมกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประทับใจมากของฉบับเกาหลี คือการเสริมบทซึ่งอธิบายที่ไปที่มาของ

ปาฏิหาริย์ได้ดี มีเสน่ห์ ลงตัวเหมาะเจาะ และมีน้ำหนักให้เราคล้อยตาม เหมือนได้ตอกหมุดยึดเรื่องราว และเติมเต็มจิ๊กซอว์ตัวที่หายไปเมื่อคราวที่ดูฉบับญี่ปุ่น โดยสรุป ขอขีดเส้นใต้ให้ว่า Be With You มีเนื้อหา ‘ดีงาม’ ต่อหัวใจ ควรค่าให้ตามดูทุกๆเวอร์ชั่นเลยค่ะ หนังรีเมคข้ามสัญชาติ จากหนังญี่ปุ่นเรื่อง Be with You เมื่อปี 2004

กลายมาเป็นหนังเกาหลี ซึ่งเอาจริงๆผมก็จำความรู้สึกตอนดูภาคต้นฉบับไม่ได้แล้ว สิ่งเดียวที่จำได้แม่นคือพลอตหลักของเรื่องเท่านั้น และนั่นทำให้ผมรู้ตอนจบของหนังรีเมคเรื่องนี้แต่แรก ซึ่งนั่นทำให้ผมตอบไม่ได้ว่าผมชอบหนังเรื่องนี้ เพราะผมรู้ประเด็นทั้งหมดแต่แรก เลยยิ่งซึ้ง ยิ่งอินไปกับรายละเอียดที่หนังให้ไว้แต่แรก หรือ

เพราะหนังเกาหลีมันขยี้ได้สุดกว่ากันแน่ ที่แน่ชัดอย่างนึงเลยคือ หนังเรื่องนี้มีจังหวะแบบเกาหลีชัดเจน มีมุกตลกสอดแทรกอยู่เรื่อยๆ มีการขยี้ฉากซึ้งให้คนดูเสียน้ำตา เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้เป็นคนที่จะเสียน้ำตาให้หนังง่ายๆ แต่เรื่องนี้ได้น้ำตาผมไปพอสมควร แอบรู้สึกย้วยนิดหน่อยตรงฉากเฉลยซึ่ง เพราะผมรู้พลอตทั้งหมดอยู่

แล้ว หนัง Sicario Day of the Soldado หรือชื่อไทยว่า ทีมพิฆาตทะลุแดนเดือด 2 “Sicario, Day of the Soldado” ยังคงเล่าถึงการเดินหน้าปราบปรามกลุ่มค้ายาเสพติดที่ชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก แต่ครั้งนี้สถานการณ์กลับทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากกลุ่มค้ายาเสพติดได้พยายามส่งผู้ก่อการร้ายข้ามพรมแดนมายังสหรัฐฯ

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด

ถึงแม้ทหารของฝ่ายไทยจะมีจำนวนน้อยกว่าข้าศึกหลายเท่าตัวก็ตาม และแม้จะรู้ว่าจุดจบจะเป็นเช่นไร หาก ขุนรองปลัดชูและนักรบผู้กล้าทั้ง 400 นายก็หาได้หวาดหวั่นแม้รู้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของพวกตนก็ตามที นี่คือ วีรกรรมอันกล้าหาญของบรรพชนที่ยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิตของตน เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้มีแผ่นดินอยู่

อาศัย แม้วีรกรรมของพวกเขาอาจจะไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง หากคุณงามความดีของทุกคนจะยังคงอยู่ตลอดไปตราบนานเท่านาน ตัวหนังเล่าเรื่องได้ธรรมดา ไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ มันไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือน่าจดจำอะไรเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันดีหน่อยเอาช่วงองก์สาม ที่ทำให้เราร่วมลุ้นไปกับตัวละครได้

ทั้งนี้ต้องขอชมในเรื่องของงาน design ที่ออกแบบมาสุดมากๆ เก็บรายละเอียดดี ยิ่งฉากแอคชั่นที่ดุเดือด ดิบ และมั่วๆ มึนๆ แต่รวมๆ คือเราชอบมากนะ เป็นหนังไทยที่รวมนักแสดงหน้าใหม่ไว้เพียบ ซึ่งล้วนแล้วแต่เล่นแข็งทั้งนั้น เลยทำให้ตัวหนังดูตลก และไม่จริงจังเท่รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย

สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุดาที่มันควรจะเป็น โดยรวมเป็นหนังประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้น่าเบื่อ

แต่ก็ไม่ได้น่าติดตามอะไรขนาดนั้น ดูได้เรื่อยๆ
ที่ฉันว่ามานี้หมายความว่า นั่นคือหนังอิงประวัติศาสตร์ที่ยากจะมีใครกล้าสร้างเรื่องราวที่น้อยคนรู้จักแต่น่า

ยกย่องอย่างเรื่องของ "ขุนรองปลัดชู" ขึ้นมา แต่พอหนังเข้าโรงปุ๊บ ความคาด(ไม่)ถึงก็ตามมา นั่นคือ มีคน "กล้า" ไปดูหนังเรื่องนี้น้อยถนัดตา รอบที่ฉันดูก็มีคนร่วมท้าพิสูจน์ไปด้วยเพียงราว ๆ 20 คน ขอบอกว่าน่าวังเวงและสงสารมาก...หนังไทยวันนี้ เพราะหนึ่งคือเป็นหนังของ "ผู้สร้างหน้าใหม่" ที่บางท่านอาจคุ้นเคยกันดีใน

ฐานะเซียนพระเครื่องรุ่นใหญ่ นั่นก็คือ "พยัพ คำพันธุ์" ที่ทำหน้าที่ทั้งอำนวยการสร้าง โปรดิวเซอร์ ผูกเรื่อง เขียนบท ร่วมแสดง แต่ไม่ได้กำกับการแสดงเอง สองคือ "การโปรโมท" ที่ยังอ่อนด้อยและไม่ทั่วถึงในความเข้าใจหรือความต้องการของคนอยากจะดู หรืออีกนัยหนึ่งคือความไม่พร้อมภายในขอบเขตที่ไม่นานนัก

โดยเนื้อเรื่องหลักๆก็แน่นอนว่าต้องเกี่ยวกับหมาเป็นแน่ . ".....โดยเหตุการณ์คร่าวๆในเรื่องนั้นพูดถึงญี่ปุ่นในอนาคตที่มีการใช้ข้อบังคับไล่สุนัขออกจากตัวเมือง โดยเนรเทศไปไว้บนเกาะขยะร่วมกัน เนื่องจากเพื่อป้องกันโรคที่คนอาจจะติดจากสุนัขได้ แต่เหตุการณ์วุ่นๆก็เกิดขึ้นเมื่อมีเด็กคนหนึ่งนั้นได้พยายามไปที่เกาะ เพื่อตามหา

สุนัขของเขาคืนมา.... " . ใครที่พอจะได้เห็นตัวอย่างภาพหรือ trailer ของหนังแล้วนั้นจะสังเกตุได้ในทันทีเลยว่า ภาพหรือโมเดลของฉากต่างๆนั้น ดูไม่เหมือน CG เอาซะเลย ใช่แล้วครับ ทุกตัวละครและฉากต่างๆนั้นถูกสร้างขึ้นมาจริง เป็นโมเดล handmade ที่ปั้นขึ้นมาเพื่อถ่ายฉากต่างๆแบบ stop motion นั่นเอง ซึ่งเทคนิคแบบ

นี้ก็มีให้เห็นได้ในหนังต่างประเทศบางเรื่อง แต่ก็ไม่ได้บูมมากขนาดนั้น เพราะมันเหนื่อยมากๆที่จะต้องมานั่งปั้นตัวละครหรือสร้างฉากขึ้นมาจริงๆ แต่บอกเลยว่ามันคุ้มมากๆครับ ถึงแม้ว่ามันจะดูเป็นเพียงหนังอนิเมชั่น แต่กลับรู้สึกได้ว่ามันสามารถจับต้องได้มากกว่า CG 3มิติทั่วไปที่เราได้ชมกันมา เพราะมันดูสมจริงเสียเหลือเกินในบาง

รายละเอียด การขยับที่อยู่ก้ำกึ่งระหว่างความเป็นจริงและโลกแห่งการ์ตูน . หนังเล่าเรื่องได้อย่างเรียบลื่นมากๆ ดูแล้วไม่เบื่อเลยจริงๆ มีอะไรให้สนุกและคอยจับตามองได้เสมอๆ รายละเอียดของฉากต่างๆ เปรียบเสมือนเราเข้าไปในพิพิธภัณฑ์โมเดลของญี่ปุ่นเลยจริงๆ บทสนทาที่ดูเฮฮาและตลกน่ารักของเหล่าหมาๆ หนำซ้ำหนังยังมี

การส่อถึงประเด็นการเมืองอย่างเข้มข้นอีกด้วยเช่นกัน หนังเรื่องนี้พยายามเสนอถึงเรื่องทั้ง 2 ด้านทำให้โทนของหนังไม่ได้สดใสน่ารักมากจนเกินไป แต่กลับเป็นโทนหม่นๆคลุมมาตลอด โดยตลอดเวลา 1ชม.45นาทีนั้นเรียกได้ว่าอิ่มเอมจริงๆ ดูได้ไม่มีเบื่อเลย . แต่ส่วนตัวก็แอบติดใจตรงที่ตอนท้ายหนังเหมือนพยายามเร่งตัวเอง

มากไปจนลืมใส่ใจตัวละครหลายๆตัวที่พยายามปูมาตอนต้นเรื่อง

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด