[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
เคล็ดลับ 4 ดี สูงวัยอย่างสตรอง  VIEW : 2536    
โดย 009

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 20
ตอบแล้ว : 2
เพศ :
ระดับ : 3
Exp : 82%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 178.128.126.xxx

 
เมื่อ : อังคาร ที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2562 เวลา 21:16:16   

ผ่าสูตรสำเร็จการเตรียมตัวเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ด้วยเคล็ดลับ "4 ดี" สูงวัยอย่างสตรอง จาก สสส. ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มตัวแล้ว ตามข้อมูลจากมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย ที่ระบุว่า ปี 2560 ประเทศไทยมีประชากรสูงอายุ 11 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 17 โดยประเทศไทยกำหนดนิยาม "ผู้สูงอายุ" ไว้ใน พ.ร.บ.

ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 มาตรา 3 หมายถึง บุคคลซึ่งอายุเกิน 60 ปี บริบูรณ์ขึ้นไปและมีสัญชาติไทย สำหรับสัดส่วนที่ใช้ในการแบ่งสังคมสูงวัยนั้น มีเกณฑ์การแบ่ง ดังนี้ 1.สังคมสูงวัย (Aged Society) คือสังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปี ขึ้นไป มากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด 2.สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Complete Aged Society) คือสังคมที่มี

ประชากรอายุ 60 ปี ขึ้นไป มากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด 3.สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society) คือสังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปี ขึ้นไป มากกว่าร้อยละ 28 ของประชากรทั้งหมด สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะนำเคล็ดลับการเตรียมตัวที่จะเข้าสู่การเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ผ่านการ

พูดคุยกับ นพ.บรรลุ ศิริพานิช ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย และในฐานะผู้สูงอายุแห่งชาติประจำปี 2562 เพื่อให้ทุกคนสามารถวางแผนและตั้งตัวแต่เนิ่นๆ ก่อนจะเข้าสู่สูงวัย โดยคุณหมอ เล่าว่า การจะเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ต้องเตรียมตัวดี 4 ประการ ได้แก่ มีสุขภาพดี มีการทำงาน มีความมั่นคง และมีสิ่งแวดล้อมที่ดี 1.มีสุขภาพ

ดี - สุขภาพกาย ไม่เจ็บป่วย ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ - สุขภาพจิต ไม่มีอาการวิกลจริต - สุขภาพทางสังคม คุยกับผู้อื่น มีมนุษยสัมพันธ์กับคนรอบข้าง - สุขภาพจิตปัญญา รู้ว่าอันไหนควรหรือไม่ควร 2.มีการทำงานดี - ทำงานเพื่อตัวเอง คนทำงานต้องมีรายได้ โดยรายได้ต้องมีมากกว่ารายจ่าย และเก็บสะสมไว้ - ทำงานเพื่อผู้อื่น ให้ความช่วยเหลือที่

สามารถทำได้ - ทำงานเพื่อสังคม เราอยู่ในสังคมต้องช่วยเหลือสังคม - ทำงานเพื่อสิ่งแวดล้อม ไม่เบียดเบียนและช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม 3. มีความมั่นคงดี - ความมั่นคงทางการเงิน ทุกวันนี้เงินเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งความมั่นคงทางการเงินนี้ก็มีจากการทำงานเพื่อตนเอง และมีรายได้สะสม - ความมั่นคงทางครอบครัว ต้องอยู่ในครอบครัวและ

ต้องมีความรู้ในการสอนลูกหลานในสิ่งที่ดีงาม 4. มีสิ่งแวดล้อมที่ดี - สิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ที่พักอาศัยเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะเป็นปัจจัยในการส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิต ถึงจะเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด





โดย 002
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 20
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 178.128.209.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 8 ต.ค. 2562 : 19:37

งานดนตรีประกอบที่ทำได้อารมณ์หนังเจมส์ บอนด์ ไม่ก็อีธาน ฮันท์ อะไรแบบนั้น ก็คือ การผสมผสานความฮาแบบน่ารักๆ สลับกันไปกับฉากแอ็คชั่นแบบน่าลุ้น ฉากน้องแจ็ค-แจ็ค คงเป็นอะไรที่ชวนฮาสุดๆ แล้ว กลายเป็นตัวละครที่ขโมยซีนได้เด็ดขาดมากในภาคนี้ กับฉากแอ็คชั่นที่ชวนลุ้นได้ตัวโก่งอยู่พอควร ทำให้กลายเป็นหนัง

ครอบครัวที่ดูสนุก อารมณ์ดี ก่อนหน้าหนังจริงเป็นแอนิเมชั่นขนาดสั้นเรื่อง “เปา” ภาพน่ารัก มีความจีน และตอบโจทย์เรื่องครอบครัวด้วยนะเธอ เรื่องราวในภาคนี้จะต่อจากภาคแรกเพียง 1 นาทีเท่านั้น ซึ่งเมื่อ เฮเลน ถูกเรียกให้มาเป็นผู้นำโครงการที่จะนำเหล่ายอดคนกลับมา ในขณะที่ บ๊อบ ค้นหาความเป็นฮีโร่ประจำวันของชีวิตแบบ

"ปกติ" อยู่บ้านกับ ไวโอเลต, แดช และหนูน้อยแจ๊ค-แจ๊ค ที่พลังพิเศษของเขากำลังจะเปิดเผยออกมา ภารกิจของพวกเขาได้เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม เมื่อวายร้ายคนใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับแผนการอันชาญฉลาดและสุดอันตรายที่เป็นภัยกับทุกสิ่ง ครัอบครัวพาร์สก็พร้อมรับความท้าทายนั้น โดนเฉพาะเมื่อมี โฟรโซน อยู่ร่วม

ทีม นั่นคือสิ่งที่ทำให้ครอบครัวนี้เป็นยอดคน หลังจากปล่อยให้เราต่างรอคอยกันมายาวนานกว่า 14 ปี การกลับมาครั้งนี้จึงถือเป็นการกลับมาที่ซีเรียส จริงจังมากขึ้น เหมือนกลุ่มเป้าหมายในภาคแรกคือเด็ก พอเวลาผ่านล่วงเลยมา เด็กในวันนั้นจึงเป็นวัยรุ่นในวันนี้ เนื้อหาในภาคนี้จึงเป็นการเล่าเรื่องที่เจาะลึกลงไปที่ชีวิตตัวละครและ

ความรับผิดชอบที่มากขึ้น ซึ่งมันเลยทำให้บทภาคนี้ลึกขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ต้องยอมรับว่าฉากแอคชั่นในหนังไม่ได้เยอะเหมือนที่เราคิดไว้ ซึ่งถึงมันจะมาน้อยแต่ต้องบอกเลยว่าร้อยเปอร์มากๆ ฉากแอคชั่นที่ออกแบบมาได้เท่

และเดือดจริงๆ การต่อสู้แต่ละครั้งของตัวละครกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูด และทำให้รู้สึกว่าพลาดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด



      
โดย 002
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 20
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 178.128.209.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 16 ต.ค. 2562 : 18:37

ฉบับญี่ปุ่นมีความเป็น genre โรมานซ์ดราม่า ในขณะที่ฉบับเกาหลี ออกไปทาง genre รอมคอมผสมดราม่า ฉบับญี่ปุ่นมีความคลาสสิคนุ่มนวล ละเมียดละไม จริงจัง ซาบซึ้งแบบค่อยๆโอบความรู้สึกให้ซึมลึก ทั้งด้วยบทและบุคลิกตัวละคร ในขณะที่ฉบับเกาหลีมีความผ่อนคลาย หลายรสหลากอารมณ์ จังหวะจึงอาจดูโฉ่งฉ่างกว่า

(บางแว๊บอาจรู้สึกถึงขั้นว่าฉาบฉวยเกิน หรือ ‘เยอะ’ เกินด้วยซ้ำ เช่น บทตลก) ตัวละครแทบทุกตัวแฝงความขี้เล่น สนุกสนาน ดูๆไป ผู้เขียนอยากเปรียบเป็น เพลงจังหวะวอลซ์ กับ จังหวะแร๊ป อาจทำให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น ฉบับญี่ปุ่นละความ ‘ปาฏิหาริย์’ ไว้เป็นกิมมิคแฟนตาซี ฉบับเกาหลีมีการขยายความที่มาของกิมมิคแฟนตาซีให้

เรื่องราวมีชั้นเชิงและมีน้ำหนักน่าเชื่อถือขึ้น Be With You ฉบับญี่ปุ่น นำแสดงโดย ชิโด นากามูระ และ ยูโกะ ทาเคอูชิ ทั้งสองได้รักและแต่งงานกันหลังจบงานแสดงเรื่องนี้ แต่ปัจจุบันได้เลิกกันไปแล้ว ในความเห็นส่วนตัว ผู้เขียนชอบความละมุน คลาสสิค ลึกซึ้งแบบเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ประทับใจที่หนังสามารถทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ

ท่ามกลางบรรยากาศอึมครึมเฉอะแฉะของหน้าฝนได้ เปลี่ยนฝนที่น่ารำคาญใจกลายเป็นความชุ่มชื่นหัวใจได้อย่างไม่รู้ตัวกันเลยแหละ ในขณะที่หนังส่วนใหญ่มักใช้สัญลักษณ์ฝนกับความเศร้า หดหู่ ความเหงา การไม่มีทางออก เป็นต้น ผู้เขียนอินกับบุคลิกตัวละครของญี่ปุ่นมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูกชายที่ไร้เดียงสาสมวัย

ดูน่าสงสารมากกว่า ลูกชายฉบับเกาหลีดูจะแก่นเซี้ยวกล้า ก้าวร้าวไปนิด ออกแนวฉลาดแกมโกงหน่อยๆ อาจเป็นเพราะปรับปรุงไปตามยุคสมัยก็ได้มั๊ง ในฉบับญี่ปุ่น หลายๆซีนที่เป็นสัญญลักษณ์สำคัญของเรื่อง และได้ทำหน้าที่รีดอารมณ์ความรู้สึกแบบสุดๆในสไตล์ญี่ปุ่น เช่น ตุ๊กตาไล่ฝนของชาวญี่ปุ่นที่เด็กๆนิยมเล่นกัน

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด



      
โดย 002
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว : 20
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 178.128.209.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 20 ต.ค. 2562 : 10:34

ที่เวียนกันพูดทั้งกองร้อยก็ไม่ได้ทำให้เราสะเทือนใจกับชะตากรรมของเหล่าทหารกล้าเท่าใดนัก พาลแต่จะให้ถึงฉากที่พม่าฆ่าตัวเอกให้หมดเร็วๆซะอีก เฮ้อ…. เอาล่ะ เห็นขึ้นต้นมามีแต่ติ ทีนี้ขอชมบ้างว่า แม้หนังจะออกมาไม่ไหลลื่น ซ้ำร้ายฉากรบยังออกมายืดเยื้อ เหมือนคดีหย่าร้างที่หารมรดกไม่ลงตัวก็ตาม (อ้าว ไหนว่าจะชม)

แต่ข้อดีที่ส่วนตัวมองว่าบันเทิงไม่น้อย คงหนีไม่พ้น บรรดาฉากอาคมต่างๆ ที่ครีเอตจริงจริ๊ง ทั้งการถ่ายทอดวิชาแบบเอาสายสิญจน์เป็นสายแลน ถ่ายทอดเลเซอร์ลงหัว หรือ ยันต์เกราะเพชร ที่กลายเป็นบาเรียกันกระสุนปืนใหญ่ก็ออกมาฮาไม่น้อย คือเข้าใจแหละว่าอยากทำให้มันเท่ ถูกใจเด็กดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ แต่งานซีจี เทคนิค

พิเศษ ไม่ได้จริงๆ ขนาดเลือดยังเหมือนปลั๊กอินโหลดฟรีในอาฟเตอร์เอฟเฟกต์เลยอ่าาาาา. สรุปสุดท้าย คือใครหวังว่าจะได้ดูหนังอิงประวัติศาสตร์สนุกๆ หนังเรื่องนี้ไม่ตอบโจทย์ฮะ แต่ถ้าคิดว่ามีเวลา 2 ชั่วโมงและไม่ได้สนเนื้อหาบนจอ โรงหนังจะกลายเป็นโรงแรมให้คุณ ‘พักสายตาเถอะนะคนดี’ ได้เลยจ้า หนังเล่าเรื่องในรัชสมัย

ของ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ก่อนการเสียกรุงฯ ครั้งที่ 2 ราว 5 ปี “พระเจ้าอลองพญา” (กษัตริย์แห่งเมืองอังวะ) ได้ส่งกองทัพรี้พลจำนวน 2 หมื่นนายยกมายึดเมืองตะนาวศรีและเมืองมะริด ซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญของอโยธยาในแถบทะเลอันดามัน หลังจากที่ทราบข่าวของข้าศึก ทางอโยธยาจึงส่งกองทัพ 2 กองเข้าสกัดเพื่อปกป้อง

รักษาแผ่นดิน คือกองทัพของ เจ้าพระยายมราช และ กองทัพของเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ ขณะเดียวกัน “ขุนรองปลัดชู” กรมการเมืองวิเศษไชยชาญ ได้รวบรวมเหล่าอาสาอาทมาฏจำนวน 400 นายให้มาร่วมทัพด้วย หลังจากนั้นเมื่อเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ทราบข่าวว่า ทัพของเจ้าพระยายมราชแตกพ่ายโดยกองทัพของอังวะที่กำลังเดิน

ทัพเข้ามา จึงมอบหมายให้ขุนรองปลัดชูนำกองกำลังอาทมาฏ 400 นายไปสกัดทัพของอังวะเอาไว้ที่เมืองกุยบุรี ไม่นานนักกองทัพของ “มังระราชบุตร” และ “มังฆ้องนรธา” ก็เคลื่อนผ่านช่องด่านสิงขร และได้ประจัญหน้ากับกองทัพของไทยขวางอยู่ที่เมืองกุยบุรีจึงเกิดการต่อสู้กับขึ้น

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด



      
โดย 009
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 20
ตอบแล้ว : 2
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 178.128.209.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 27 ต.ค. 2562 : 16:55

เรื่องการออกแบบวิชวลก็ยังมีความสมมาตรแบบที่เฮียแกชอบใช้อยู่เยอะมาก ที่เห็นว่าจะแตกต่างจากเรื่องอื่นๆคือ ความบู๊แอคชั่น มีความน่าตื่นเต้นมากขึ้นเยอะ แทบตลอดทั้งเรื่องเลย ทำให้นึกถึงฉากนึงใน The Grand Budapest Hotel ที่ Mr. Gustave และ Zero หนีตายจากสถานการณ์ฉุกเฉิน ชั้นเชิงการเล่าแบบนั้นมีตลอดทั้ง

เรื่องเลย แถมเรื่องนี้มีความ “แก้แค้น” ที่มักเจอในหนังของเฮียหลายๆเรื่อง อยู่อย่างมากและมีชั้นเชิงการเล่าที่ทำให้ผู้ชมติดตามและรู้สึกมีส่วนร่วมอยู่ด้วยสูงมาก งานสร้างบอกได้เลยว่าคล้ายๆ Fantastic Mr.Fox ดูเป็นตุ๊กตาหุ่น แต่ดูเหมือนจริงขึ้นมากกว่า...นึดนิง... สีไม่จัดจ้านเท่างานเรื่องอื่นๆ แต่ก็คุมโทนสีได้แบบเวสเลย

ชอบความที่ใช้ใยฟองน้ำแทนควัน เหมือนเรื่อง Fantastic Mr.Fox เด๊ะๆ เลย.... หลายๆอย่างในโมเดลดูค่อนข้างวินเทจเข้าใจว่าเป็นความเคารพที่เวสมีต่องาน Stopmotion ทุกอย่างลงตัวสวยงามดูมีความเป็นศิลปะสูง อีกอย่างที่ชอบและมักมีในหนังของเวสแทบทุกเรื่องเลยคือกระเช้าลอยฟ้าแบบรางเลื่อน แทบเห็นได้ในหนัง

เวสทุกเรื่องเลย จริงๆมีอีกหลายดีเทลที่แทบอยากกลับไปดูอีกเพื่อเก็บรายละเอียดจริงๆเลย... เรื่องของเพลงไม่พูดถึงไม่ได้เลย ทุกเรื่องของเฮียเวสจะมีความคราฟท์เรื่องเพลงสูงมาก คราวนี้เป็นคราวของกลองแบบญี่ปุ่นที่ดูฮึกเหิม มาเร้าความตื่นเต้นแทบตลอดทั้งเรื่อง จนดูจบยังต้องหาเพลงจากเรื่องนี้มาฟังต่อตอบสนองอารมณ์

ที่ยังไม่จบหลังดูหนังจบของตัวเองเลยทีเดียว... น่าจะเป็นอนิเมชั่นที่ชอบที่สุดในปีนี้เลย ถ้ามีโอกาสคาดว่าจะกลับไปดูอีกรอบเพื่อเก็บรายละเอียด และแนะนำทุกท่านเลยว่าไม่ควรพลาดเรื่องนี้จริงๆ Isle of Dogs นั้นเป็นผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับฝีมือดีอย่าง Wes Anderson และไปโฟกัสกับประเด็นหลักมากไปหน่อย แต่โดย

รวมแล้วก็ถือว่าเป็นหนังที่สนุกและน่ารักคุ้มค่าแก่การดูมากจริงๆ เรื่องราวสุดระทึกปนดราม่าในเมืองเมงาซากิ

รวบรวมเนื้อหาโดย UFA369 เว็บเกมส์ UFABET อันดับ 1 ของไทย
สมัคร แทงบอล และ คาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด



      
1