ผลงานอันโดดเด่นทำให้เขาได้ถูกเป็นที่จับตามองอย่างมาก จากลูกครึ่งไทย-อเมริกัน สู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยและสร้างชื่อเสียงไปก้องโลก

จุดเริ่มต้นของ คีริน ตันติเวทย์ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเพียงแค่เขาเห็นพี่ชายวิ่ง จึงอยากวิ่งแบบพี่บ้างเท่านั้นเองเลยทำให้ได้ไปฝึกซ้อม และออกกำลังกายไปด้วยและเริ่มที่จะสนใจ เข้าสู่ชมรมกรีฑาของมหาวิทยาลัยอย่างจริงจัง

      เนื่องจากความสามารถและการฝึกซ้อมของเขา ทำให้เขาได้เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันวิ่งของกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัย ซึ่งการแข่งขันครั้งนั้น ทำให้เขาโดดเด่นและเป็นที่จดจำ เพราะเกิดเหตุผู้เข้าแข่งขันคนอื่น

เหยียบส้นรองเท้าของเขาตอนออกตัวทำให้ เจ้าตัวจำใจต้องเตะรองเท้าข้างหนึ่งทิ้งไป แล้วกลั้นใจต่อความเจ็บปวดของการวิ่งจนหนังหลุด ไปเข้าเส้นชัยจนได้นั่นเอง

นั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้ คีริน ตันติเวทย์ เข้าใจถึงแรงที่อยากจะเอาชนะในการวิ่ง เขาจึงฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อการเป็นนักกีฬาระดับโปร และเข้าร่วมกับทีมชาติไทยเป็นครั้งแรกในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ปี 2018 ที่อินโดนีเซีย ได้เหรียญทองแดง วิ่ง 10,000 ม.ชาย ต่อด้วย 2 เหรียญทองซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ จากวิ่ง 5,000 ม.ชาย และ 10,000 ม.ชาย

หลังจากการศึกษา เขาได้ตามความฝันของตนอย่างเต็มที่โดยตัดสินใจเข้าร่วมทีม Bowerman Track Club(BTC) ซึ่งเป็นทีมที่รวมนักวิ่งยอดเยี่ยมที่ดีที่สุดของสหรัฐอเมริกา

การซ้อมกับ BTC ถือเป็นความท้าทายที่โหดอย่างมากด้วยกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วงในทุก ๆ วัน แต่เพื่อนร่วมทีมช่วยปรับให้เขาเข้ากับระบบของทีมมากยิ่งขึ้น

คีริน ตันติเวทย์ ใช้เวลาเกือบ 5 ปีในการฝึกอย่างหนักกับ BTC ไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ ในทีม

        และแล้วความสำเร็จของเขาก็ออกผล กับการผ่านเกณฑ์โอลิมปิก 2020 ที่เขาใฝ่ฝัน ในฐานะทีมชาติไทย และทำลายสถิติทุกอย่างที่เคยทำไว้ โดยในระยะ 10,000 เมตร คีริน ได้ติดอันดับ Top5 สถิติ Sub 27.20 นาที ในประวัติศาสตร์วงการกรีฑาเอเชียเป็นอันดับที่ 4

“เพราะทุกความฝันสามารถสำเร็จได้ด้วยความพยายามของเรา”

สนับสนุนโดยเว็บไซต์ เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุด