แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุว่าในผลประกอบการช่วงไตรมาสที่ 2 ของสโมสรประจำซีซั่นนี้นั้น พวกเขามีหนี้ 455.5 ล้านปอนด์ สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของซีซั่นก่อน 16 เปอร์เซ็นต์ แต่รายได้โดยรวมก็เยอะกว่าช่วงเวลาเดียวกันของฤดูกาลที่แล้วเหมือนกัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 2 ของฤดูกาล 2020-21 หรือก็คือระหว่างช่วงเดือนตุลาคม-เดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยหนึ่งในนั้นคือการระบุว่าหนี้โดยรวมของพวกเขาอยู่ที่ 455.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 18,220 ล้านบาท)
สำหรับตัวเลขดังกล่าวนั้นถือว่าสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของซีซั่นก่อนถึง 16 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าคิดเป็นตัวเลขก็คือสูงกว่าเดิม 64.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,568 ล้านบาท) ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้หนี้โดยรวมมันสูงขึ้นเป็นเพราะช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2020 นั้น แมนฯ ยูไนเต็ด มีรายได้ในวันแข่งขันเพียง 1.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 60 ล้านบาท) โดยมาจากการที่แฟนบอลไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชมเกมใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบด้านรายได้ในวันแข่งขันประจำช่วงไตรมาสที่ 2 ของซีซั่น 2020-21 กับฤดูกาลที่แล้วนั้นก็ถือว่าเงินด้านนี้ลดลงมากถึง 95.5 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นตัวเลขได้ 33.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,324 ล้านบาท) ขณะที่รายได้ด้านการตลาดก็ลดจาก 70.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,824 ล้านบาท) เหลือ 62.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,504 ล้านบาท) ด้วย
อย่างไรก็ตาม รายได้ด้านการถ่ายทอดสดของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น 108.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,348 ล้านบาท) หลังจากในช่วงไตรมาสที่ 2 ของฤดูกาลก่อนนั้นตัวเลขด้านนี้อยู่ที่ 64.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,588 ล้านบาท) ซึ่งสาเหตุหลักเป็นเพราะในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2020 ทีมของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ได้เล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ หากวัดกันที่รายได้โดยรวมนั้นมันก็ถือว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีรายได้โดยรวมเยอะกว่าช่วงไตรมาสที่ 2 ของฤดูกาลก่อนเป็นจำนวน 2.6 เปอร์เซ็นต์ หลังจากรายได้โดยรวมของพวกเขาในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2020 อยู่ที่ 172.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,912 ล้านบาท) ขณะที่กำไรอยู่ที่ 63.9 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,556 ล้านบาท) ด้วยกัน
เพิ่มเติม : badhaven.com
|