[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
ระวัง! “คางทูม” ระบาดในหมู่ทหาร-นักเรียน เตือนพ่อแม่-ร.ร. ฉีดวัคซีน  VIEW : 375    
โดย 1702

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 1
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 1
Exp : 20%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 125.27.255.xxx

 
เมื่อ : ศุกร์ ที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2564 เวลา 02:27:25   

 ระวัง! “คางทูม” ระบาดในหมู่ทหาร-นักเรียน เตือนพ่อแม่-ร.ร. ฉีดวัคซีน
S! Health (Rewrite)
สนับสนุนเนื้อหา

เตือน "โรคคางทูม" อาจระบาดเป็นกลุ่มก้อน หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาพบระบาดในค่ายทหารและ ร.ร. เผยทั้งปีป่วยแล้ว 1,466 ราย นร.ป่วยมากสุด พบมากสุดที่เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ภูเก็ต แม่ฮ่องสอน แนะพ่อแม่พาไปฉีดวัคซีนป้องกัน

ครึ่งปี พบคนไทยป่วย “คางทูม” เกือบ 1,500 คน
กรมควบคุมโรค เผยแพร่พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 4-10 ส.ค. 2562 ให้ระวังโรคคางทูม โดยระบุว่า จากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคคางทูมในประเทศไทย ปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 27 ก.ค. 2562 พบผู้ป่วยคางทูมแล้ว 1,466 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต

กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากสุด คือ กลุ่มอายุ 15-24 ปี และพบมากในกลุ่มนักเรียนร้อยละ 39.6 จังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงสุด 5 ลำดับแรก คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ภูเก็ต และแม่ฮ่องสอน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบข่าวการระบาดจากฐานข้อมูลเฝ้าระวังเหตุการณ์ พบรายงานการระบาดของโรคคางทูมเป็นกลุ่มก้อน จำนวน 2 เหตุการณ์ คือ ในค่ายทหาร และในโรงเรียน ในช่วงนี้อาจพบผู้ป่วยโรคคางทูมเป็นกลุ่มก้อนได้ โดยเฉพาะในสถานที่มีคนอยู่อาศัยรวมกันหนาแน่น และพื้นที่ที่มีความครอบคลุมของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่ต่ำ


อาการของโรคคางทูม
โรคคางทูมเกิดจากเชื้อไวรัส เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจและการสัมผัสน้ำลายของผู้ป่วย อาการของโรคคางทูมที่พบได้ มีดังนี้

มีไข้ต่ำๆ

ปวดเมื่อยตามตัว

มีอาการเจ็บบริเวณหน้าหูและขากรรไกร

มีต่อมน้ำลายข้างกกหูโตขึ้น

มีอาการเจ็บบริเวณแก้มและหู

การรักษาโรคคางทูม
ปัจจุบันการรักษาเป็นการรักษาตามอาการ ควรมีการแยกผู้ป่วยประมาณ 10 วันหลังจากเริ่มมีต่อมน้ำลายโต และควรหยุดไปโรงเรียนหรือหยุดงานเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น


คางทูม ป้องกันง่ายๆ ด้วยวัคซีน
กรมควบคุมโรค ขอแนะนำประชาชนว่า วิธีป้องกันโรคคางทูมที่มีประสิทธิภาพ คือ การฉีดวัคซีนป้องกันโรค โดยเป็นรูปแบบวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม และหัดเยอรมัน (MMR) ในเด็กเล็กควรรับวัคซีนป้องกันโรค 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเด็กอายุ 9-12 เดือน และให้ซ้ำอีกครั้งเมื่ออายุ 2 ปี 6 เดือน สามารถป้องกันโรคได้ตลอดชีวิต

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
 

ทางเข้า ufabet เว็บที่มีเกมส์เยอะที่สุด