อาร์แซน เวนเกอร์ ระบุ รู้สึกว่าตนโดนตำหนิแบบไม่เป็นธรรมในช่วงท้ายๆ ที่อยู่กับ อาร์เซน่อล แต่บอกว่าโดยรวมภูมิใจกับสิ่งที่เคยทำให้ทีมแล้ว

    อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตยอดผู้จัดการทีมของ อาร์เซน่อล สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าตนโดนตำหนิแบบไม่เป็นธรรมเท่าไหร่นักกับผลงานที่ทำได้ในช่วงท้ายๆ ที่อยู่กับ "ไอ้ปืนใหญ่"

    เวนเกอร์ เข้ามากุมบังเ***ยน อาร์เซน่อล เมื่อปี 1996 และเขาก็สร้างทีมได้อย่างยอดเยี่ยมจนเคยขับเคี่ยวแย่งแชมป์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างสูสีเป็นเวลานาน รวมถึงเคยได้แชมป์ลีกในแบบที่ไม่แพ้ใครในลีกตลอดทั้งซีซั่นด้วย อย่างไรก็ตาม พอถึงช่วงหนึ่งแล้วนั้นผลงานของ อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของ เวนเกอร์ ก็ดร็อปลงไป ก่อนที่สุดท้ายเขาจะบอกลาทีมในปี 2018

    เวนเกอร์ ให้สัมภาษณ์กับ เดอะ เทเลกราฟ สื่อชั้นนำของเมืองผู้ดีว่า "ผมคิดว่าหลายคนวิพากษ์วิจารณ์กันรุนแรงไปพอตัวเกี่ยวกับช่วงท้ายๆ ที่ผมอยู่กับทีม ในปี 2016 เราจบฤดูกาลด้วยการเป็นอันดับ 2 ของลีก แม้ว่าซีซั่นนั้น เลสเตอร์ จะเป็นแชมป์ แต่ทีมอื่นๆ ก็มีคะแนนน้อยกว่า เลสเตอร์ เหมือนกัน ตอนนั้น เลสเตอร์ เป็นทีมเดียวที่แพ้แค่ 3 นัดตลอดทั้งฤดูกาล ส่วนในปี 2017 ถึงแม้เราจะไม่ติดท็อปโฟร์เป็นหนแรกในรอบ 20 ปี แต่เราก็ยังเก็บได้ตั้ง 75 คะแนน"

    "มันน่าเสียดายที่หลายคนไม่ตระหนักถึงเรื่องนั้น เราอุตส่าห์ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ จากการชนะ เชลซี ซึ่งตอนนั้นเพิ่งได้แชมป์ลีกมาหมาดๆ ตอนนั้นพวกเขามีโอกาสที่จะเป็นดับเบิ้ลแชมป์เลยนะ พอถึงปี 2018 เราก็แพ้นัดชิงชนะเลิศในเกม ลีก คัพ ให้กับ (แมนเชสเตอร์) ซิตี้ รวมถึงตกรอบรองชนะเลิศในศึก ยูโรปา ลีก ด้วยน้ำมือของ แอตเลติโก มาดริด แต่เราก็ตกรอบจากการแพ้แค่ 1 ประตูเท่านั้น (สกอร์รวม 2 นัด อาร์เซน่อล แพ้ 1-2)"

    "ฟังนะ ผมทุ่มเทช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพการคุมทีมของผมไปกับการพัฒนาสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ นั่นคือการสร้างสนามแข่งและการตอบแทนสโมสร รวมถึงการทำให้สโมสรอยู่ในสถานะที่สามารถเผชิญหน้าสูกับอนาคตได้ และการทำให้สโมสรมีศักยภาพที่จะทำผลงานให้ออกมาดีในภายภาคหน้าด้วย ท้ายที่สุดแล้วเราก็เป็นฝ่ายชนะในด้านนั้น และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจมากที่สุดก็คือการทำให้สโมสรอยู่ในสภาพนั้นได้"

ติดตามข่าว : esf-flaine.com