อุ่นแข้งนัดแรกแพ้ 1-2 ดวลกันอีกครั้ง วันที่ 3 ก.พ.
ภายหลังจากที่ดวลแข้งกันอย่างดุเดือดมาในเกมนัดแรก พร้อมกับความพ่ายแพ้ของทีมฟุตซอลทีมชาติไทยที่โดนญี่ปุ่นยิงสุดแสบช่วงท้ายเกมเบียดเอาชนะไป 2-1 ทั้งสองทีมก็เตรียมที่จะลงสนามล้างตากันอีกนัดในแมตซ์อุ่นเครื่องเก็บคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้ง วันอาทิตย์ที่ 3 ก.พ.นี้
ความเคลื่อนไหวของขุนพล “โต๊ะเล็กช้างศึก” เมื่อวันที่ 2 ก.พ. "ปูลปิส" โฆเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส เฮดโค้ชของทีมปล่อยให้นักเตะได้พักร่างกายโดยไม่มีการฝึกซ้อมแต่อย่างใด และจะเรียกรวมพลอีกครั้งในวันแข่งขัน 3 ก.พ. นี้
"ปูลปิส" เผยว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงตอนนี้คือเรื่องของสภาพร่างกาย นักเตะค่อนข้างอ่อนล้า ก็อย่างที่รู้ว่านักเตะทั้งหมดพักมายาวความฟิตยังไม่เข้าที่ จึงตัดสินใจให้นักเตะได้พักฟื้นร่างกายให้เต็มที่ก่อนลงเตะนัดที่สอง
กุนซือโต๊ะเล็กไทยยังเผยต่อว่า การเล่นในเกมแรกทุกคนทำได้น่าพอใจมาก มีวินัยและสู้ได้ดี โดยเฉพาะผู้เล่นดาวชุดที่ 2 ทั้ง รณชัย จูงวงษ์สุข ,มูฮัมหมัด อุสมานมูซา รวมถึง วรุฒ หวังสะมาแอล ,อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ผลงานน่าพอใจทีเดียว แต่แน่นอนว่าเราเองต้องมาปรับแก้เหมือนกัน สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องกำชับเป็นพิเศษก็คงเป็นเรื่องของสมาธิ เห็นได้ชัดว่าเกมระดับนี้ เราเพียงแค่สมาธิแกว่งนิดเดียวก็โดนลงโทษทันที
“ถือเป็นบทเรียนในการเสียประตูช่วงท้ายเกม ก็เกิดมาจากสมาธิของทุกคนด้วย
ส่วนเรื่องของระบบการเล่น แท็กติก และความใจสู้ทีมชุดนี้ทำได้ดีแล้ว ฉะนั้นนัดสองเราก็มีโอกาสที่จะล้างแค้นเอาชนะญี่ปุ่นได้เหมือนกัน” ปูลปิส กล่าว
สำหรับตัวผู้เล่นโต๊ะเล็กช้างศึกในเกมที่สองนี้ ยังคงไม่มี ธนากร ใจเวช ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนตัวอื่นๆพร้อมลงสนามครบทั้ง 20 คน โดยผู้เล่น 5 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4-0 ผู้รักษาประตู คฑาวุธ หาญคำภา ตัวรับ ชัยวัฒน์ แจ่มกระจ่าง ริมเส้น กฤษดา วงษ์แก้ว ,จิรวัฒน์ สอนวิเชียร และ พรมงคล ศรีทรัพย์แสง
ในขณะที่แข้ง “โต๊ะเล็กซามูไรบลูส์” ทีมชาติญี่ปุ่น เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 ก.พ.ได้เดินทางไปซ้อมกันเบาๆ ที่สนามโกดัง สเตเดี้ยม ภายหลังการซ้อม บรูโน่ การ์เซีย ที่เคยคุมทัพทีมชาติเวียดนาม และมีโอกาสได้เจอกับทีมชาติไทยหลายครั้งทั้งในศึกชิงแชมป์เอเชีย และอาเซียน ก็ได้กล่าวถึงทีมชาติไทยว่า ผู้เล่นไทยหลายคนมีเทคนิคและศักยภาพที่ดี ทีมไทยพัฒนาขึ้นมากจาก 2 ปีที่แล้วมาก เกมอุ่นเครื่องนัดแรกนั้น ตนเองเห็นว่าไทยมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างไปจากเดิม จนสร้างปัญหาให้กับทีมเราพอสมควร นั่นทำให้ในเกมนัดที่สองที่จะเจอกันอีกครั้ง เราต้องทำการบ้านให้มากกว่าเดิม
สำหรับสภาพทีมญี่ปุ่นไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บใดๆ ซึ่ง 5 คนแรก คาดว่ายังคงเป็นชุดเดิม โดยมี ฮิกอร์ ปีเรส ลงเฝ้าเสา พร้อมด้วย โทโมอากิ โยชิกาว่า แข้งตัวรับกัปตันทีม ที่คอยผนึกกำลังกับ มินาโมโตะ อากิระ , นิบูยะ คาซูชิโร่ และ ชิมิสุ คาซุยะ แข้งดาวรุ่งที่เล่นอยู่ในลีกของประเทศสเปน โดยมี ราฟาเอล เฮนมิ และ ฮิราตะ มาซาโนริ ที่คอยสลับหมุนเวียนลงสู่สนาม
ทั้งนี้สถิติที่น่าสนใจในเกมอุ่นเครื่องของทีมชาติไทยที่พบญี่ปุ่น รายการ "แบงค็อก ฟุตซอล ซูเปอร์แมตช์ 2010" ที่สนาม อาคารกีฬาเวศน์ ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ซึ่งครั้งนี้ก็แข่งขันพบกัน 2 นัด ปรากฏว่านัดแรกญี่ปุ่นชนะ 4-3 ก่อนที่ไทยจะกลับมาเอาชนะในนัดสองได้ 2-0 พร้อมชูถ้วยแชมป์ไปครอง ส่วนสถิติระดับชาติที่เจอกันญี่ปุ่นทำได้ดีกว่าไทย โดยเจอ 20 นัด เป็นญี่ปุ่นที่ชนะไปได้ 12 เกม ไทยชนะได้ 5 เกม เสมอกัน 3 เกม ทีมไทยยิงได้ 49 ประตู และญี่ปุ่นยิงได้ถึง 65 ประตู
เกมอุ่นเครื่องเก็บคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้ง ระหว่างทีมฟุตซอลไทยกับญี่ปุ่น นัดที่สองจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 ก.พ.นี้ที่สนามบางกอก อารีน่า หนองจอก เวลา 16.00 น. เปิดให้แฟนโต๊ะเล็กเข้าชมฟรี นอกจากนี้ยังจะมีการการถ่ายทอดสดให้ชมผ่านทางแฟนเพจ Futsal Thailand – ฟุตซอลไทยแลนด์ เช่นเดิม
สนันสนุนโดย บาคาร่า
ศึกษาวิธีการใช้งาน บาคาร่า
|