เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 35 สถานการณ์ของ "ปืนใหญ่" มาย่ำแย่ลงไปอีกต้องเหลือผู้เล่น 10 คน หลังจากผู้ตัดสินแจกใบแดงโดนตรงให้ กรานิต ชาก้า ไล่ออกจากสนามไป จากจังหวะเปิดปุ่มใส่ แฟร์ราน ตอร์เรส แบบรุนแรง
ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 43 แจ็ค กรีลิช กระชากขึ้นมาทางฝั่งซ้ายลากเข้าเขตโทษแล้วไหลถวายพานให้ กาเบรียล เชซุส ยืนตวัดยิงจ่อๆเข้าประตูไปให้ แมนฯ ซิตี้ นำ อาร์เซน่อล เป็น 3-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ฟานไดจ์คโต้กลับซิลวาหลังออกมาจวกแฟนหงส์น่าสมเพช
ครึ่งหลัง อาร์เซน่อล เริ่มด้วยการส่ง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ลงมาเล่นแทน บูคาโย่ ซาก้า เพื่อมาทดแทนตำแหน่งของ กรานิค ชาคา ส่วน แมนฯ ซิตี้ ส่ง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ลงมาแทน ไคล์ วอล์คเกอร์
สกอร์หนีเป็น 4-0 ในนาทีที่ 53 แฟร์ราน ตอร์เรส ไหลบอลย้อนให้ โรดรี้ วิ่งมาปั่นเล่นทางด้วยขวาหน้าเขตโทษส่งบอลเสียบเสาสองเข้าประตูไป
นาทีที่ 68 เจ้าถิ่นหวิดได้ลูกที่ 5 เมื่อ ริยาด มาห์เรซ เปิดไปที่เสาสองให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดมาโขกจ่อๆ แต่ แบรนด์ เลโน่ โชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดออกหลัง
จนกระทั่งนาทีที่ 84 แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูที่ 5 จนได้ ริยาด มาห์เรซ วางบอลเข้าเขตโทษให้ แฟร์ราน ตอร์เรซ หลุดมาโขกเน้นๆไม่เหลือ
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ซิตี้ เปิดรัง ถล่ม อาร์เซน่อล 5-0 คว้าชัยสองนัดรวดขยับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราว ส่วน "ปืนใหญ่" ยังยิงใครไม่ได้แถมโดนคู่แข่งกระทุ้งไปถึง 8 ลูกเท่ากับ นอริช จมอยู่รองบ๊วยของตาราง
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์ (โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ น.46), รูเบน ดิอาส, อายเมอริค ลาป๊อร์กต์ , ชูเอา กานเซโล่ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา (ราฮีม สเตอร์ลิง น.58), โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน - กาเบรียล เชซุส (ริยาด มาห์เรซ น.61), เฟร์ราน ตอร์เรส, แจ็ค กรีลิช
อาร์เซน่อล (5-4-1) : แบร์นด์ เลโน่ - คาลัม แชมเบอร์ส, ร็อบ โฮลดิ้ง, เซอัด โคชาซินัค, คีแรน เทียร์นีย์, เซดริก โซอาเรส - กรานิต ชาคา, เอมิล สมิธ โรว์, มาร์ติน โอเดการ์ด, บูคาโย่ ซาก้า (โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ น.46) - ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง (อเลซองดร์ ลากาแซตต์ น.59)
marcgoldin.com
|