ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกซูเปอร์โกปา โดยในเกมนี้ VAR ทำหน้าที่ริบประตูคืนจากอาซูลกรานาถึงสองครั้ง

ฟุตบอลถ้วยซูเปร์โกปา เด เอสปันญา 2019-20 รอบรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม 2563 ที่สนามคิง อับดุลลอห์ สปอร์ต ซิตี้ ประเทศซาอุดิอาระเบีย บาร์เซโลนา พบกับ แอตเลติโก มาดริด

เกมนี้อาซูลกรานาของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ จัดเต็มเกมรุกนำโดย ลิโอเนล เมสซี, หลุยส์ ซัวเรซ และ อองตวน กรีซมันน์ ลงดวลทีมเก่า ขณะที่ ดีเอโก้ ซิเมโอเน ยอดกุนซือแอต.มาดริด ส่ง ชูเอา เฟลิกซ์ จับคู่กับ อัลบาโร โมราต้า ในแดนหน้า

เกมในครึ่งแรกทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0-0 กระทั่งเริ่มครึ่งหลังเพียงไม่กี่อึดใจ โกเก้ ซัดด้วยขวาช่วยให้ตราหมีออกนำไปก่อน 1-0

นาทีที่ 51 บาร์เซโลนาตามตีเสมอได้สำเร็จจากการยิงด้วยขวาของ ลิโอเนล เมสซี ถัดมานาทีที่ 59 บาร์ซาพลาดได้ประตูแซงนำจากจังหวะที่ ลิโอเนล เมสซี ยิงเข้าประตูไป แต่ทว่าก่อนหน้านี้ผู้ตัดสินดูเหตุการณ์ย้อนหลังที่จอ VAR ก่อนพบว่ายอดดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ใช้แขนแต่งบอล

กระทั่งนาที 62 บาร์เซโลนาขึ้นนำ 2-1 จนได้ หลุยส์ ซัวเรซ โหม่งบอลไปติดเซฟ ยาน โอบลัค บอลมาเข้าทาง อองตวน กรีซมันน์ โหม่งซ้ำจ่อๆไม่พลาด

นาทีที่ 74 บาร์ซาชวดได้ประตูที่สามจากการยิงของ เคราร์ด ปิเก้ แต่ทว่าผู้ตัดสินเช็คกับทีมงาน VAR พบว่าในจังหวะก่อนหน้านั้น อาร์ตูโร วิดัล ยืนล้ำหน้าอยู่ก่อนแล้ว

นาทีที่ 81 กลายเป็นแอต.มาดริดที่มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากจุดโทษของ อัลบาโร โมราต้า กระทั่งนาที 86 ตราหมีแซงนำ 3-2 จากการยิงของ อังเคล คอร์เรอา

จบเกม แอตเลติโก มาดริด แซงคว้าชัยเหนือ บาร์เซโลนา 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศซูเปอร์โกปา เด เอสปันญา 2019-2020 ไปพบกับ เรอัล มาดริด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคมนี้ แข่งขันเวลา 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามสนามคิง อับดุลลอห์ สปอร์ต ซิตี้ ประเทศซาอุดิอาระเบีย

สนันสนุนโดยเว็บไซต์ เว็บบอล
ศึกษาวิธีการใช้งาน เว็บบอล