[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ติดต่อสอบถาม
blog สมาชิก
สถิติผู้เขียน blog 10 อันดับ
wave
[ มือใหม่ ]
2
admin
[ มือใหม่ ]
2
orean
[ มือใหม่ ]
2
KAT
[ มือใหม่ ]
1
yuy
[ มือใหม่ ]
1
aTon
[ มือใหม่ ]
1
fang
[ มือใหม่ ]
1
film
[ มือใหม่ ]
1
mild
[ มือใหม่ ]
1
Donus
[ มือใหม่ ]
1
บทความ blog ล่าสุดโดย
เพลงคริสต์มาสtortae
การดูแลรักษาสุภาพ ให้แข็งแรงaTon
ประเพณีวันเข้าพรรษาmild
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
พบจุดที่หนาวที่สุดในโลกเเห่งใหม่ !!orean
อาเซียนDonus
การวาดภาพสีนำ้lovepop-123456
อาเซียนmikekung02
ลดความอ้วนสูตรนางเอก 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์yuy
ปรากฏการณ์ธรรมชาติMin-Mintra
ไลน์ โรงเรียนศรัทธาฯ

ติดต่อ สอบถาม

poll

   คุณคิดว่าเวปนี้เป็นอย่างไร


  1. ดีมาก
  2. ดี
  3. ปานกลาง
  4. แย่
  5. แย่มาก

  

   เว็บบอร์ด >> >>
ทัวร์นาเมนต์ที่น่าจดจำ!   VIEW : 340    
โดย GP

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 59
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 6
Exp : 20%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 184.22.176.xxx

 
เมื่อ : อาทิตย์ ที่ 25 เดือน กรกฏาคม พ.ศ.2564 เวลา 21:16:43   

ทัวร์นาเมนต์ที่น่าจดจำ!
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2020 จบลงไปอย่างเป็นทางการ และกลายเป็น อิตาลี ที่สามารถจ้าวยุโรปเป็นสมัยที่สองในประวัติศาสตร์ หลังเอาชนะ อังกฤษ ในการดวลจุดโทษในนัดชิงชนะเลิศเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่่ผ่านมา แน่นอนว่าในศึกยูโรครั้งนี้นั้นต่างมีโมเมนต์ และเหตุการณ์ที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งสร้างความฮือแก่คอลูกหนังทั่วโลก และแม้ว่าวงการฟุตบอลจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงแหระระบาดไปทั่วโลกในตอนนี้ แต่สุดท้ายทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวก็สามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

วันนี้เรารวบรวม 5 เหตุการณ์ที่น่าสนใจในศึกยูโร 2020 มาฝากแฟนๆกัน เหตุการณ์สุดช็อกตั้งแต่นัดแรก หลังจากศึกยูโร 2020 ลงฟาดแข้งกันได้ไม่นานก็เกิดเหตุการณ์สุดช็อกให้แฟนบอลทั่วโลกได้เห็นตั้งแต่นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มเมื่อ คริสเตียน เอริคเซ่น เกิดสภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจนวูบคาสนาม ในเกมที่ เดนมาร์ก แพ้ ฟินแลนด์ 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน ส่งผลให้ทีมแพทย์ต้องมาทำการกู้ชีพดาวเตะจาก อินเตอร์ มิลาน ที่ข้างสนาม โดยที่แฟนบอลทั่วโลกก็ต่างลุ้นและให้กำลังใจผ่านหน้าจอโทรทัศน์กันแบบใจจดใจจ่อ ซึ่งสุดท้าย เอริคเซ่น ก็ฟื้นกลับมาได้สำเร็จ และต้องออกไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นแน่นอนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครออยากให้เกิดขึ้น แต่มันก็มีโมเมนต์ที่น่าประทับใจในการที่หลายๆฝ่ายต่างช่วยยื้อชีวิตของ เอริคเซ่น จนกลับมาได้ โดยเฉพาะช็อตที่ ซิมิง เคียร์ ที่ช่วยทำการปฐมพยาบาลก่อนที่ทีมแพทย์จะเดินทางมาถึงเพื่อช่วยชีวิตนักเตะ พร้อมกับสั่งให้ลูกทีมตั้งกำแพงมนุษย์ล้อม เอริคเซ่น เพื่อไม่ให้ภาพนาทีชีวิตที่บีบหัวใจถูกถ่ายทอดออกไปสู่สาธารณชน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่เข้าไปปลอบ ซาบริน่า ภรรยาของ เอริคเซ่น ที่ตามเข้ามาเชียร์อยู่ในสนามด้วย บรรยากาศกลับมาคึกคัก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นส่งผลกระทบมาถึงวงการลูกหนังแบบเต็มๆโดยเฉพาะการห้ามให้มีแฟนๆเดินทางเข้ามาชมเกมในสนามของลีกแต่ละประเทศเพื่อความปลอดภัย ซึ่งแน่นอนมันทำให้บรรยากาศการแข่งขันดูเงียบสงัดไม่คึกคักอย่างที่ควรจะเป็น และต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาเป็นแรมปี อย่างไรก็ตามในศึกยูโรหนนี้เราได้เห็นบรรยากาศเก่าๆเร่มกลับมาอีกครั้ง เมื่อสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ได้อนุญาตให้แฟนบอลเข้าชมเกมได้ 25 เปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม แต่ก็มีบางสนามอย่างปุสกัส อารีน่า ประเทศฮังการี ที่ได้รับอนุญาติให้แฟนบอลเดินทางเข้าไปชมแบบเต็มความจุ ส่วนในเกมนัดชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์ ก็ได้รับอนุญาตให้มีแฟนบอลเข้าชมเกมถึง 75 เปอร์เซ็นต์ เรื่องดังกล่าวนั้นทำให้การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ หลังจากศึกยูโรต้องเลื่อนมาจากปีที่แล้ว เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 

5 เหตุการณ์ที่น่าสนใจในศึกยูโร 2020
การใช้ VAR ตัดสิน การใช้เทคโนโลยี VAR มาช่วยตัดสินนั้นถือเป็นดาบสองคม และได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากว่าการนำมาใช้ในศึกยูโรเป็นครั้งแรกจะเป็นไปในทิศทางใด หลังจากบรรดาลีกใหญ่ๆในยุโรปต่างนำมาใช้กันทั้งหมดแล้ว และก็มีปัญหาที่ยังต้องได้รับการปรับปรุง อย่างไรก็ดีในทัวร์นาเมนต์นี้เราจะเห็นได้ว่าการใช้ VAR ตัดสินนั้นถูกใช้ในเหตุการณ์ที่สมเหตุสมผล และทีมงานผู้ตัดสินใช้เวลาวิเคราะห์กันอย่างรวดเร็วมีความถูกต้องแม่นยำ

ซึ่งทำให้เกมดำเนินไปอย่างไหลลื่นและไม่เกิดดราม่าตามมาทีหลัง และมันสวนทางกับในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างชัดเจนที่มักเกิดดราม่าให้เห็นอยู่เสมอ โดยเฉพาะการตีเส้นล้ำหน้าจาก VAR จากสถิติหลังจบรอบแบ่งกลุ่มมีการเปิดเผยว่ากระบวนการย้อนดู VAR ถูกใช้เพียง 12 ครั้งเท่านั้น ซึ่ง 8 ครั้งเกี่ยวกับการแฮนด์บอลหรือล้ำหน้า และส่วนใหญ่จะได้รับการตัดสินภายในระยะเวลาเพียง 30 วินาทีเท่านั้น โรนัลโด้ ไม่กินโค้ก! อีกหนึ่งเหตุการณ์นอกสนามที่กลายเป็นไวรัลโด่งดังไปทั่วโลกนั่นก็คือการที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
lepashmina.com